ก.ล.ต. เตรียมออกเกณฑ์เปิดทางให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพระดมทุนในวงกว้างได้

พฤหัส ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๐:๓๗
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการระดมทุนในวงกว้างของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และสตาร์ทอัพ เพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้ตามความเหมาะสม ขณะที่ดูแลผู้ลงทุนให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่เพียงพอ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า ในปัจจุบันเอสเอ็มอียังไม่สามารถระดมทุนจากผู้ลงทุนในวงกว้างและนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอาจไม่เอื้ออำนวยและต้นทุนในการระดมทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ตามเป้าหมายของแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดการเพิ่มสัดส่วนเอสเอ็มอี ต่อ GDP เป็นร้อยละ 60 ภายในปี 2580 ก.ล.ต. จึงจะเปิดช่องทางให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถระดมทุนในวงกว้าง (Public Offering: PO) ได้ ขณะเดียวกันยังดูแลให้ผู้ลงทุนได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม

ก.ล.ต. กำหนดแนวทางให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่เป็นบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งมีผลการดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง (proven track record) หรือมีมูลค่ากิจการระดับหนึ่งแล้ว เช่น เอสเอ็มอีขนาดกลางตามนิยามของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และเอสเอ็มอีที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สามารถระดมทุนจากบุคคลในวงกว้างและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดรอง* ได้โดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาต แต่ต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อ ก.ล.ต. และจัดทำหนังสือชี้ชวนให้แก่ผู้ลงทุนเพื่อให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมทั้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังนี้

1. เปิดเผยข้อมูลของกิจการและงบการเงินตามที่กำหนด โดยงบการเงินจะต้องผ่านการสอบทานหรือตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่ผ่านการตรวจคุณภาพจาก ก.ล.ต. ซึ่งมีอยู่ 29 แห่งในปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563)

2. ผู้ลงทุนต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้

(1) ผู้ลงทุนสถาบัน กิจการเงินร่วมลงทุน นิติบุคคลร่วมลงทุน ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะ (angel investor)

(2) กรรมการและพนักงานของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ หรือบริษัทในเครือ

(3) ผู้ลงทุนที่มีประกาศนียบัตรวิชาชีพที่แสดงถึงความรู้ด้านการเงินและการลงทุน (professional license)

(4) ผู้ลงทุนทั่วไปที่มีความรู้และประสบการณ์การลงทุนในหุ้นโดยจะต้องมีเงินลงทุนโดยตรงในหุ้นเฉลี่ยตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปในรอบระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด และการซื้อขายหุ้นเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพต้องทำผ่านตัวกลางที่ปฏิบัติตามกระบวนการขายผลิตภัณฑ์ (sales conduct) เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ประเภทเสี่ยงสูงและซับซ้อน รวมทั้งผู้ลงทุนต้องผ่านแบบทดสอบความรู้ (knowledge test) เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนทราบถึงความเสี่ยงจากการลงทุน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=602 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail [email protected] หรือ [email protected] หรือ [email protected]จนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2563

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4