นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (STI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2563 ได้พิจารณาและมีมติให้เลื่อนกำหนดวันประชุมและวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ที่กำหนดไว้วันที่ 28 เมษายน 2563 ออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์โดยรวมของประเทศจะคลี่คลาย จึงจะแจ้งกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีที่จะจัดขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยการเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ ไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผล
และเพื่อไม่ให้กระทบสิทธิการรับเงินปันผลของผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัทได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด ทดแทนการเสนอจ่ายเงินปันผลประจำปีต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในอัตราที่เคยเสนอไว้หุ้นละ 0.25 บาท จากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานของบริษัท ณ วันที่ 1 มกราคม -วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 268,000,000 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 67,000,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 91 ของกำไรสุทธิประจำปี 2562 (งบเฉพาะกิจการ) หลังหักสำรองตามกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ หรือคิดเป็นร้อยละ 93 ของกำไรสะสมส่วนที่ยังไม่ได้จัดสรรก่อนจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 (งบเฉพาะกิจการ)
ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าว ให้จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 14 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 28 เมษายน 2563 เร็วขึ้นจากกำหนดการเดิมจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ที่อนุมัติให้ยกเลิกไป
“สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ ขออภัยต่อท่านผู้ถือหุ้นอย่างยิ่ง ที่ต้องแจ้งเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ออกไปก่อนโดยยังไม่มีกำหนดวันใหม่ เนื่องด้วยความปลอดภัย และห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเราจะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาประกาศจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และมาตรการของภาครัฐ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไปโดยเร็ว” นายสมเกียรติ กล่าว
ส่วนเรื่องการปฏิบัติงาน กลุ่มบริษัทยังสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากลักษณะการทำงาน เป็นงานบริหารควบคุมการก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ที่ยังเดินหน้าอยู่ โดยปัจจุบัน STI มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 2,000 ล้านบาท เตรียมทยอยส่งมอบงานในปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงคาดว่าจะไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท
ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ได้เข้าลงนามซื้อหุ้นของบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หรือ AEC บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมชั้นนำ 1 ใน 4 ของไทยที่มีงานภาครัฐต่อเนื่อง คาดดีลแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2563 สนับสนุนรายได้ปีนี้ให้เติบโตเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนมีรายได้ 727.28 ล้านบาท