บลจ.กสิกรไทย เปิดตัว Term Fund Plus ลุยตราสารหนี้ต่างประเทศ เพิ่มโอกาสพลัสผลตอบแทน ประเดิมกองแรก 7-10 ก.ค.นี้

ศุกร์ ๐๓ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๔๕
บลจ.กสิกรไทย เปิดตัวกองทุน Term Fund Plus เป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำ โดยเน้นกระจายลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย เสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 7-10 ก.ค.นี้
บลจ.กสิกรไทย เปิดตัว Term Fund Plus ลุยตราสารหนี้ต่างประเทศ เพิ่มโอกาสพลัสผลตอบแทน ประเดิมกองแรก 7-10 ก.ค.นี้

นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันที่ตลาดยังคงมีความผันผวนสูง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ผู้ลงทุนยังคงต้องการกองทุนรวมที่ตอบโจทย์ในภาวะตลาดเช่นนี้ ภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำ บลจ.กสิกรไทย จึงได้เสนอขายกองทุน Term Fund Plus ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการที่มีความพิเศษกว่ากองทุน Term Fund ทั่วไป ทั้งในแง่ตราสารที่ลงทุนและโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยจะลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศที่บริหารจัดการโดย Invesco Hong Kong Limited บลจ.ชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งนี้ กองทุนหลักจะกระจายการลงทุนในตราสารหนี้กว่า 80 ตราสารซึ่งมากกว่ากองทุน Term Fund ทั่วไป โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ไม่น้อยกว่า 70% ของพอร์ต รวมถึงลงทุนใน High Yield Bond บางส่วน ผ่านกลยุทธ์ Buy & Maintain ที่มุ่งซื้อและถือครองจนครบอายุตราสาร เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนตามที่ประมาณการไว้ พร้อมติดตามความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กองทุนไม่ต้องเสียภาษีตราสารหนี้ในอัตรา 15% เนื่องจากเป็นการลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดเสนอขาย Term Fund Plus กองทุนแรกของเดือนกรกฏาคม ภายใต้ชื่อ กองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท เอเชียน บอนด์ 2021A (KAB21A) ในระหว่างวันที่ 7-10 กรกฏาคม 2563 โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 - I, Class C(USD)-Acc ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียโดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ได้แก่ 1) อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าภูมิภาคอื่น 2) บริษัทในเอเชียส่วนใหญ่มีปัจจัยพื้นฐานดีขึ้น เนื่องจากมีการกู้ยืมเงินลดลง 3) ระดับราคาตราสารหนี้เอเชียทั้ง Investment Grade และ High Yield Bond ยังมีความน่าสนใจต่อการเข้าลงทุน และ 4) มีอัตราการผิดนัดชำระหนี้ต่ำเพียง 0.48% ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนหลักจะเข้าไปลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม Real Estate, Financial, Consumer Cyclical, Basic Materials และ Government ในสัดส่วน 23.70%, 23.20%, 12.70%, 12.50% และ 8.70% ตามลำดับ โดยผลตอบแทนที่คาดหวังอยู่ที่ 1.6% ต่อปี – 1.8% ต่อปี

“บลจ.กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกต่อตราสารหนี้ต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นจากการ Search for Yield ของผู้ลงทุนในภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ โดยบริษัทที่ออกหุ้นกู้เอกชนระดับ Investment Grade ในเอเชียส่วนใหญ่เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ อย่างไรก็ดี หุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังได้รับประโยชน์โดยตรงจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายต่อไป และพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน โดยระดับราคาหุ้นกู้เอเชียสกุล USD ที่ปรับลดลงทำให้ผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยงดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ในขณะที่โอกาสการผิดชำระหนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KAB21A เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถถือครองหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 1 ปีได้ และมองเห็นโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำ โดยสามารถเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds หรือ ธนาคารกสิกรไทย และตัวแทนสนับสนุนการขายของบลจ.กสิกรไทยทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ประเมินไว้ / กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุน KAB21A ในช่วงเวลา 1 ปี ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้