ผลสำรวจเผยซีอีโอทั่วโลกมองการเปลี่ยนแปลงหลังโควิดจะเกิดขึ้นตลอดกาล

อังคาร ๑๑ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๓๙
ผลสำรวจความเห็นซีอีโอทั่วโลกฉบับใหม่ของ PwC มองแนวโน้มการเติบโต และผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อวิธีการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและในอนาคต

ซีอีโอมองว่า การเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานจากระบบทางไกล การใช้ระบบอัตโนมัติ และสำนักงานที่มีความหนาแน่นต่ำจะยังคงมีอยู่ต่อไป

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความปลอดภัยของระบบห่วงโซ่อุปทาน และการปรับตัวรับประสบการณ์ของผู้บริโภค เป็นเทรนด์เพิ่มเติมที่จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว

ผลสำรวจความเห็นซีอีโอทั่วโลกจำนวน 699 คนฉบับใหม่ที่ PwC เผยแพร่ออกมาพบว่า ซีอีโอได้ตอกย้ำความสำคัญของความจำเป็น ที่ผู้นำภาคธุรกิจและผู้กำหนดนโยบายต้องคิดทบทวนอย่างลึกซึ้งถึงวิธีการวางแผน ลงทุน และดำเนินการในอนาคต

ในผลสำรวจดังกล่าว ซีอีโอส่วนใหญ่เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปสู่การทำงานร่วมกันในระบบทางไกล (78%), ระบบอัตโนมัติ (76%) และผู้ที่ทำงานจากสำนักงานที่มีจำนวนลดลง (61%) จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป ขณะที่ซีอีโอ 61% ระบุว่า รูปแบบธุรกิจของพวกเขาจะเป็นระบบดิจิทัลมากขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดเร็วขึ้นเนื่องจากโรคระบาดนี้

การตอบแบบสำรวจพบว่า โครงสร้างพื้นฐานในระบบดิจิทัล การทำงานที่ยืดหยุ่น และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน จะเป็นเรื่องสำคัญในนโยบายของกรรมการบริษัท ขณะที่พวกเขาจะปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจใหม่เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตในช่วง 12 เดือนข้างหน้าและต่อจากนั้น ส่วนซีอีโอ 58% ระบุว่า การรับประกันความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานจะยังคงเป็นเรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญ โดยจะขับเคลื่อนการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อทำให้สามารถติดตามผลิตภัณฑ์นับตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการส่งมอบได้ และเพื่อรับประกันว่า ซัพพลายเออร์และพันธมิตรของพวกเขาสามารถปรับตัวได้ในช่วงเวลาวิกฤติ

บ็อบ มอริทซ์ ประธานบริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส อินเตอร์เนชันแนล ลิมิเต็ด (PwC) กล่าวว่า “ผู้นำภาคธุรกิจต้องทำให้บริษัทดำเนินงานต่อไปทุกวัน ขณะเดียวกันก็ต้องทบทวนแผนกลยุทธ์อย่างลึกซึ้งเพื่อวันพรุ่งนี้ด้วย เพื่อให้ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้ด้วยความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่ให้ประสบผลสำเร็จท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาจำเป็นต้องทำ โดยนอกจากจะต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่เกิดเร็วขึ้นเนื่องจากโรคโควิด-19 และความคาดหวังมากขึ้นของผู้ถือผลประโยชน์โดยรวมแล้ว ยังต้องคิดถึงประเด็นอื่น ๆ ที่กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจในอนาคตของพวกเขาในเชิงปัจจัยพื้นฐานด้วย นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไปจนถึงเรื่องประชานิยม”

ซีอีโอเกือบ 2 ใน 5 หรือ 39% เชื่อว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การดึงฐานการผลิตกลับประเทศ (onshoring) และการมอบงานให้ฝ่ายอื่นภายในองค์กร (insourcing) อย่างถาวร และซีอีโอจำนวนเดียวกันคาดว่า ระบบชาตินิยมจะเพิ่มขึ้นในระยะยาว ซึ่งเป็นการสวนกระแสโลกาภิวัตน์ที่มีมานานหลายทศวรรษ

คริสติน ริเวอร่า หัวหน้าสายงาน Forensics & Crisis ของ PwC US ให้ความเห็นว่า:

“การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เตือนซีอีโอให้นึกถึงความสำคัญของการสร้างการปรับตัวให้อยู่ในรูปแบบการดำเนินธุรกิจของพวกเขา บริษัทที่สามารถนำวิธีการทำงานในระบบดิจิทัลมาใช้ หรือเปลี่ยนระบบห่วงโซ่อุปทานได้ในทันทีจะสามารถรับมือกับผลกระทบได้ดีกว่า ขณะนี้ ซีอีโอจึงต้องจัดการกับสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น พร้อม ๆ กับคิดทบทวนว่าพวกเขาจะดำเนินธุรกิจอย่างไรในอนาคต นวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นในช่วงวิกฤติไม่ได้เหมาะสมกับระยะยาวทุกตัว แต่ยังคงมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่ต้องเรียนรู้”

ซีอีโอมีความเห็นระมัดระวังต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของพวกเขาในปีหน้า (45% ค่อนข้างมั่นใจ ขณะที่ 15% มั่นใจมาก) โดยซีอีโอ 65% คาดว่า รายได้จะลดลงทั่วโลก ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกมีมากที่สุดในแอฟริกา ยุโรปกลางและตะวันออก เอเชีย และลาตินอเมริกา

ผู้นำภาคธุรกิจเชื่อด้วยว่า โรคระบาดครั้งนี้ได้เพิ่มความสำคัญของการจัดการกับประเด็นต่าง ๆ ของผู้มีส่วนได้เสีย โดยเฉพาะพนักงาน ซึ่งมาตรการช่วยเหลือพนักงานได้แก่สุขภาพและความปลอดภัย (92%), ความเป็นอยู่ที่ดี (61%) และการสนับสนุนทางการเงิน (24%) โดยซีอีโอ 42% สมทบทุนให้แก่องค์กรชุมชนต่าง ๆ และผู้นำภาคธุรกิจเกือบ 1 ใน 3 หรือ 32% ได้ลดเงินเดือนของตนเองลง ขณะที่ซีอีโอที่รักษาการจ้างงานไว้ให้มากที่สุด (36%) และปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน (92%) เชื่อว่า สิ่งนี้จะมีผลบวกต่อชื่อเสียงในระยะยาวขององค์กรของพวกเขา

ภูชาน เซธี หัวหน้าร่วมฝ่าย People and Organisation ของ PwC US ให้ความเห็นว่า:

“การเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นไปสู่การทำงานแบบยืดหยุ่นกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับบริษัทหลายแห่ง ไม่ว่าจะมีรูปแบบใหม่ใด ๆ เกิดขึ้นก็ตาม ก็เห็นได้ชัดว่า นโยบายที่มุ่งเน้นไปที่พนักงานที่ลงทุนในความปลอดภัย การป้องกัน และความเป็นอยู่ที่ดีนั้น อาจจะกลายเป็นปัจจัยใหม่ที่สร้างความแตกต่างให้แก่การรับสมัครงาน การรักษาการจ้างงาน และชื่อเสียงของบริษัท”

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากโรคโควิด-19 ครั้งนี้ทำให้ซีอีโอมีงานเพิ่มขึ้นมาซึ่งเดิมทีก็มีมากอยู่แล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังคงเป็นเทรนด์ที่ทรงอิทธิพลสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งผู้นำภาคธุรกิจส่วนใหญ่ (47%) ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงไปสู่การบรรเทาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะเกิดขึ้นต่อไป ขณะเดียวกันผู้นำภาคธุรกิจเชื่อว่า ของที่ใช้แล้วทิ้ง (อาทิ อุปกรณ์ทำความสะอาด, หน้ากาก) ที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น และการลดการใช้เศรษฐกิจแบบแบ่งปันนั้น จะเกิดขึ้นในระยะสั้น ๆ เท่านั้น

การลดการเข้าเมือง

ซีอีโอส่วนใหญ่ (61%) เชื่อว่า สถานที่ทำงานจะหนาแน่นน้อยลงกว่าในช่วงก่อนหน้า แต่พวกเขายังคงมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับบทบาทของเมืองในอนาคต โดย 34% เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงไปสู่การย้ายจากเมืองไปยังชนบทนั้นจะเกิดขึ้นต่อไป ขณะที่ 34% เชื่อว่า จะเกิดขึ้นชั่วคราว

เห็นต่างกันเกี่ยวกับบทบาทของรัฐบาล

ผู้นำภาคธุรกิจไม่คาดหวังว่าจะมีมาตรการสนับสนุนต่อเนื่องจากรัฐบาล โดยส่วนใหญ่ (57%) เชื่อว่า รัฐจะเข้าแทรกแซงในช่วงระยะสั้น แม้มีโอกาสที่รัฐบาลจะใช้การสนับสนุนดังกล่าวเพื่อสร้างอิทธิพลต่อการฟื้นฟูจากโควิด-19 และนโยบายที่มีผลต่อธุรกิจก็ตาม ขณะที่ซีอีโอไม่ถึง 1 ใน 3 หรือ 30% เชื่อว่า รัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุนต่อไป แม้การเติบโตของทั่วโลกและขององค์กรมีแนวโน้มมืดมนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าก็ตาม ขณะที่ซีอีโอ 1 ใน 5 รายระบุว่า พวกเขาปฏิเสธมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือธุรกิจของพวกเขาในช่วงโรคระบาด

บ็อบ มอริทซ์ ให้ความเห็นว่า:

“ซีอีโอบางท่านอาจจะรู้สึกว่า พวกเขาได้ผ่านบททดสอบที่สำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญในขณะนี้ก็คือการใช้ความรู้สำคัญที่ได้รับมาเกี่ยวกับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อธุรกิจและสังคม การเปลี่ยนแปลงในระยะยาวมากที่สุดในการแพร่ระบาดครั้งนี้ก็คือความจริงที่ว่า จะไม่มีทางเลือกระหว่างระยะยาวและระยะสั้นอีกต่อไป พวกเราต้องจัดการทั้งสองอย่าง”

เกี่ยวกับผลสำรวจ:

ผลสำรวจความเห็นซีอีโอของ PwC จัดทำขึ้นในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2563 โดยเป็นการต่อยอดผลสำรวจ PwC's Global CEO Survey ซึ่งสะท้อนมุมมองของซีอีโอ 699 คนเกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ และเทรนด์สำคัญที่เป็นผลมาจากโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ซีอีโอกลุ่มนี้เป็นผู้นำของธุรกิจส่วนตัวและบริษัทมหาชน รวมทั้งบริษัทขนาดเล็ก และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรม ประเทศ และดินแดนที่มีความหลากหลาย ผู้ตอบแบบสำรวจมาจาก 67 ประเทศ/ดินแดน ซึ่งรวมถึงยุโรปตะวันตก (ผู้ตอบแบบสำรวจ 42%) อเมริกาเหนือ (7%) ตะวันออกกลาง (3%)

เกี่ยวกับ PwC

PwC มุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจในสังคมและแก้ปัญหาที่สำคัญ เราคือเครือข่ายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจใน 157 ประเทศ และมีบุคลากรกว่า 276,000 คนที่ทุ่มเทให้บริการด้านการประกันภัย การให้คำปรึกษา และภาษี สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่ www.pwc.com

PwC หมายถึงเครือข่ายบริษัท PwC และ/หรือ บริษัทสมาชิกหนึ่งบริษัทหรือหลายบริษัท โดยแต่ละบริษัทเป็นนิติบุคคลที่แยกกันชัดเจน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pwc.com/structure

(C) 2020 PwC ขอสงวนสิทธิ

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1121790/PWC_Logo.jpg

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4