จากโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติทั้งหมด 14 โปรแกรมทั่วโลก รายงานระบุว่าโปรแกรมของเครือรัฐโดมินิกาและสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส อยู่หัวตารางการจัดอันดับ CBI Index ปี 2563 โดยโดมินิกาประสบความสำเร็จในการสร้างสมดุลระหว่างกระบวนการขอสัญชาติที่ไม่ซับซ้อน คุณสมบัติของผู้ขอสัญชาติที่กว้างขึ้น การสอบทานธุรกิจที่เชื่อถือได้ และชื่อเสียงโดยรวมในระดับยอดเยี่ยม ขณะที่เซนต์คิตส์และเนวิสมีกระบวนการขอสัญชาติที่รวดเร็วและเน้นการให้สัญชาติแบบทั้งครอบครัว โดยมอบข้อเสนอในเวลาจำกัดเพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เกิน 4 คนสามารถขอสัญชาติผ่านการลงทุนในกองทุนมูลค่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ นับว่าตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่มองหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับครอบครัวมากขึ้น
เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ประเทศอื่น ๆ ในแถบแคริบเบียน ได้แก่ เกรนาดา เซนต์ลูเซีย และแอนติกาและบาร์บูดา ยังคงครองอันดับท็อป 5 ร่วมกับโดมินิกาและเซนต์คิตส์และเนวิสในรายงาน CBI Index ปี 2563 ขณะที่วานูอาตู มอลตา ไซปรัส มอนเตเนโกร ตุรกี บัลแกเรีย ออสเตรีย กัมพูชา และจอร์แดน ก็ติดอันดับเช่นกัน
CBI Index ปี 2563 ได้เพิ่มหลักเกณฑ์ใหม่ 2 ประการ ได้แก่ ครอบครัวและความแน่นอนของผลิตภัณฑ์ จากเดิมที่มีหลักเกณฑ์การพิจารณา 7 ประการ ทั้งยังรวมสิทธิ์ในการตั้งถิ่นฐานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอิสรภาพในการเคลื่อนย้าย สำหรับหลักเกณฑ์เกี่ยวกับครอบครัวจะพิจารณาความง่ายในการเพิ่มสมาชิกในครอบครัวและเครือญาติเข้าสู่การขอสัญชาติ ขณะที่หลักเกณฑ์เกี่ยวกับความแน่นอนของผลิตภัณฑ์จะพิจารณาเสถียรภาพของโปรแกรมใน 5 ส่วน ได้แก่ ความยั่งยืน ความนิยมและเป็นที่รู้จัก เสถียรภาพ ชื่อเสียง และความสามารถในการปรับตัว ซึ่งการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนให้ความสำคัญมากขึ้นกับการลงทุนเพื่อทั้งครอบครัว และต้องการโปรแกรมที่เชื่อถือได้ ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการปิดพรมแดน ทำให้นักลงทุนจำนวนมากหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความปลอดภัย สภาพแวดล้อมที่สวยงาม และชุมชนที่เปิดกว้าง มากกว่าการเคลื่อนย้ายไปเรื่อย ๆ ทั่วโลก
นักวิจัยอธิบายว่า “การจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศอันเป็นผลมาจากโควิด-19 ทำให้นักลงทุนและคนทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของ “บ้าน” ขณะที่บ้านและความเป็นพลเมืองเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้ เนื่องจากการได้สัญชาติเป็นเครื่องรับรองว่าบุคคลนั้นสามารถลงหลักปักฐานได้อย่างถาวร และ CBI Index ได้เน้นให้เห็นว่ามีการขอสัญชาติไม่กี่ทางเลือกเท่านั้นที่ทั้งรวดเร็วและง่ายดายอย่างการขอสัญชาติผ่านการลงทุน”
“วิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ทำให้นักลงทุนพยายามแสวงหาทางเลือกการขอสัญชาติและการพำนักอาศัยโดยเน้นที่สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเป็นหลัก” Micha-Rose Emmett ซีอีโอของ CS Global Partners บริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำและที่ปรึกษารัฐบาลที่มีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน กล่าว ขณะเดียวกัน Anna Brugnoli หัวหน้าร่วมฝ่ายวางแผนความมั่งคั่งระดับโลกของ UBS กล่าวเสริมว่า ผู้มีความมั่งคั่งสูงที่กำลังหาทางย้ายถิ่นฐาน ต่างประเมินความสามารถของแต่ละประเทศในการตอบสนองต่อวิกฤตเศรษฐกิจและสุขภาพ ซึ่งประเทศในแถบแคริบเบียนก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นการตอบคำถามที่หลายคนมักสงสัยว่า “เราขอสัญชาติถูกประเทศหรือไม่”
Yuri Bender บรรณาธิการใหญ่ของนิตยสาร PWM กล่าวว่า “โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดเทรนด์มากมาย หนึ่งในนั้นคือโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ ซึ่งช่วยให้ครอบครัวทั่วโลกสามารถจัดการโครงสร้างและความคาดหวังของตนเอง”
ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://cbiindex.com/reports/
เกี่ยวกับ CBI Index
CBI Index เผยแพร่เป็นประจำทุกปีโดยนิตยสาร Professional Wealth Management ในเครือ Financial Times โดยเป็นการศึกษาอิสระเพียงหนึ่งเดียวที่ประเมินและเปรียบเทียบโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติทั้งหมดทั่วโลก CBI Index ถือกำเนิดขึ้นในปี 2560 โดย James McKay นักวิจัยอิสระและผู้ก่อตั้ง McKay Research โดยมีเป้าหมายในการสร้างคุณค่าให้แก่อุตสาหกรรม และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของบุคคลและครอบครัวที่ต้องการขอสัญชาติผ่านการลงทุน
อินโฟกราฟิก - https://mma.prnewswire.com/media/1249388/CBI_Index_Infographic.jpg
www.cbiindex.com