L&E ส่งซิกธุรกิจ Q4/63 ปรับตัวดีขึ้น ตุน Backlog 1,200 ลบ.ทยอยรับรู้ถึงปีหน้าปักธงรายได้ปี 64 โต 15-25% ชูแผนขยายตลาดแสงสว่างสู่ความสมาร์ท รับยุค IoT

พุธ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๑๕:๒๒

L&E ส่งสัญญาณ Q4/2563 ปรับตัวดีขึ้น จากไตรมาส 3/2563 ที่ผ่านมา จากการทยอยรับรู้รายได้ของงานในมือ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1,200 ลบ. คาดทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2564 "อนันต์ กิตติวิทยากุล" แม่ทัพใหญ่ เชื่อรายได้ปีหน้าเติบโต จากธุรกิจใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ พร้อมตั้งธงรายได้โต 15-25% ชูโมเดลธุรกิจ "Total Lighting Solution Provider" สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในการได้รับบริการที่ดีที่สุดและสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ภายใต้กระแสเศรษฐกิจดิจิทัล และการจับมือพันธมิตรเสริมทัพ

LE ส่งซิกธุรกิจ Q4/63 ปรับตัวดีขึ้น ตุน Backlog 1,200 ลบ.ทยอยรับรู้ถึงปีหน้าปักธงรายได้ปี 64 โต 15-25% ชูแผนขยายตลาดแสงสว่างสู่ความสมาร์ท รับยุค IoT

นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2563 คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา จากงานในมือ (Backlog) ในปัจจุบันมีรอไว้อยู่แล้วที่ 1,200 ล้านบาท ชึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า

"ปีนี้เป็นปีที่มีความท้าท้ายอย่างยิ่ง จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การลงทุนหรือโครงการต่างๆ ยังชะลออยู่ ประกอบกับราคาสินค้ามีการแข่งขันรุนแรง และราคาสินค้าต้องปรับตัวลดลง มีผลต่อยอดขาย แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4 มีปัจจัยบวกที่ดีกว่าไตรมาส 3 ที่ผ่านมา จากธุรกิจใหม่ที่เราผลิตเพื่อส่งไปสหรัฐอเมริกาดีเลย์ ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ ประกอบกับ ภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 2563 อาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากผลกระทบโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก" นายอนันต์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-25% โดยจะยังคงโมเดลธุรกิจว่า "Total Lighting Solution Provider" เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับบริการที่ดีที่สุดและสามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ภายใต้กระแสเศรษฐกิจดิจิทัลที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ บริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับ IoT ซึ่งบริษัทฯ ได้พัฒนาจนกล่าวได้ว่าอยู่ในขั้นแนวหน้าของประเทศ มีผลงานในด้านนี้จำนวนมาก เช่น สมาร์ทซิตี้ที่อำเภอเกาะสมุย โคมไฟถนนอัจฉริยะที่วังจันทน์ วัลเลย์ จังหวัดระยอง และโคมไฟฟ้าโซล่าร์อัจฉริยะรอบสนามบินจำนวน 22 แห่ง ของกรมท่าอากาศยาน เป็นต้น และมีแนวโน้มว่าธุรกิจด้านนี้กำลังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมแสงสว่างสำหรับการเกษตรและการปลูกพืช และยังมีกลุ่มสินค้า Entertainment lighting ที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้น อยู่ในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ธุรกิจใหม่ที่เข้ามาสนับสนุน ซึ่งเป็นผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ส่งผลให้บริษัทฯ รุกตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านบริษัทพันธมิตร และปัจจุบันยังมีบริษัทอื่นจากประเทศสหรัฐอเมริกาติดต่อให้บริษัทผลิตสินค้าให้โดยตรงซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี เพื่อสอดรับแนวโน้มดังกล่าวที่เน้นการผลิตสินค้าครั้งละจำนวนมาก บริษัทฯจึงได้ขยายโอกาส เพิ่มโมเดลธุรกิจใหม่ โดยใช้ชื่อว่า "Efficient Value Chain Management" โดยเน้นการลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพสินค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต

"ปี 2564 เชื่อว่ารายได้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หากไม่มีวิกฤตโควิด-19 รอบสอง หรือรอบ 3 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจใหม่ "Efficient Value Chain Management" ที่เน้นการผลิตเป็นจำนวนมาก ทำให้ลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพสินค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้รายได้เราโตในปีหน้า" นายอนันต์ กล่าว

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีนโยบายรักษาวินัยทางการเงิน และจะรักษาสัดส่วน D/E ที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดปัญหาความเสี่ยงจากการลงทุนมากเกินไป และบริษัทฯยังคงคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลักพร้อมทั้งการขยายโอกาสทางการตลาดไปยังนานาประเทศ เชื่อว่าจะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest