ผยง ศรีวณิช นักการเงินแห่งปี 2563

อังคาร ๐๘ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๑๕:๕๙

คณะกรรมการตัดสินรางวัลเกียรติยศ "นักการเงินแห่งปี" ของ วารสารการเงินธนาคาร มีมติให้ ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ครองตำแหน่งนักการเงินแห่งปี 2563 ด้วยคุณสมบัติของการเป็นนักการเงินแห่งปีครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 4 ด้าน เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ สร้างความเติบโตยั่งยืนให้กับองค์กร รับผิดชอบต่อสังคมและทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม

ผยง ศรีวณิช นักการเงินแห่งปี 2563

ท่ามกลางความท้าทายจากปัจจัยความผันผวนต่างๆ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจทั่วโลก ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น การกำหนดมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่ IFRS9 รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่งกดดันผลประกอบการของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ตลอดจนการเกิด Digital Disruption จากความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี จนมีผู้เล่นรายใหม่อย่างฟินเทคเข้ามาแข่งขัน และสถานการณ์ล่าสุดที่ต้องรับมือกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19

คณะกรรมการตัดสินรางวัล "นักการเงินแห่งปี" มีความเห็นร่วมกันว่า ในสภาวการณ์ดังกล่าว ธนาคารกรุงไทย ภายใต้การนำของ ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ มีความโดดเด่นและสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในการรับมือกระแสการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

โดยธนาคารยังคงรักษาระดับกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ยุทธศาสตร์ 2 Banking Model เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปพร้อมๆ กัน ทั้งการขับเคลื่อนธุรกิจแบบดั้งเดิม และการขับเคลื่อนธุรกิจแบบใหม่ เพื่อลดผลกระทบของรายได้และกำไรจาก Disruption

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขยายบริการดิจิทัลของธนาคารให้เติบโตขึ้น ในช่วงเทคโนโลยี Disruption ด้วยการเร่งปรับโครงสร้างธุรกิจ ปฏิวัติระบบเทคโนโลยี ปรับปรุงกระบวนการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับการสนับสนุนภาครัฐ ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มใหญ่ที่สุดในประเทศเพื่อเป็นช่องทางในการดำเนินโครงการการต่างๆ ของภาครัฐ

ผลงานและความโดดเด่นเป็นผลให้ คณะกรรมการตัดสินรางวัลนักการเงินแห่งปี ลงมติให้ ผยง ศรีวณิช เป็นนักการเงินแห่งปี ประจำปี 2563 Financier of the Year 2020

นักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย
ภายใต้การนำของ ผยง ศรีวณิช กรรรมการผู้จัดการใหญ่ จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์คู่ขนาน หรือ 2 Banking Model เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปพร้อมๆ กัน คือ

1. การขับเคลื่อนธุรกิจแบบดั้งเดิม (Traditional Banking) เปรียบเสมือนเรือบรรทุกเครื่องบิน (Carrier) เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนธุรกิจหลักที่ธนาคารดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน จุดมุ่งหมายหลักคือ ลดการกัดกร่อนของรายได้และกำไรจาก Disruption ให้น้อยที่สุด

2. การขับเคลื่อนธุรกิจแบบใหม่ (Digital Organization) เปรียบเสมือนเรือเร็ว (Speedboat) เป็นองค์กรใหม่ที่มีจุดมุ่งหมายในการแสวงหาโอกาสและรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ (New Business Model) หรือการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ ตลอดจนการสร้างแพลตฟอร์มแบบเปิด (Open Banking) ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าผลักดันธนาคารสู่ Invisible Banking ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่ล้ำสมัย และมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ และจากจุดแข็งในการให้บริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านโครงการสำคัญๆ ของภาครัฐ ทำให้ธนาคารสามารถสร้างแพลตฟอร์มใหญ่ที่สุดในประเทศ

ส่งผลให้ธนาคารมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนโครงการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น แอปพลิเคชั่นถุงเงิน ให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ รับชำระค่าสินค้าจากผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กว่า 200,000 แห่ง และ แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อโอนเติมจ่ายได้สะดวก โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร มีผู้ใช้ถึง 15 ล้านราย

นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาบริการทางการเงินเพื่อเชื่อมโยงภาครัฐกับประชาชน ได้แก่ ระบบลงทะเบียน "ชิม ช้อป ใช้" แพลตฟอร์มไทยชนะ พัฒนาเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน.com และ คนละครึ่ง.com

นักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ
ผยงได้แสดงบทบาทในการเป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ โดยกำหนดยุทธศาสตร์บรรษัทภิบาลระหว่างปี 2560-2564 ขับเคลื่อนธนาคารสู่การเป็นองค์กรคุณธรรมต้นแบบที่มีมาตรฐานสากลและเป็นธนาคารที่ทุกคนไว้วางใจ (Public Trust) ภายใต้โครงการ กรุงไทยคุณธรรม เพื่อยกระดับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบทั่วทั้งองค์กร (Zero Tolerance)

โดยใช้ ยุทธศาสตร์ 3 ป. คือ ปลูกจิต ปลูกจิตสำนึกพนักงานให้มีคุณธรรม ปฏิบัติงานตามกฏระเบียบ ข้อบังคับ ป้องกัน ตรวจทานและป้องกันการกระทำผิดที่จะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงต่างๆ ปรับเปลี่ยน ยกระดับมาตรฐานกระบวนการภายในธนาคาร ดำเนินการทางกฎหมายแพ่งและอาญาอย่างรวดเร็วควบคู่กับการพิจารณาโทษทางวินัยอย่างจริงจัง

นักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร
ท่ามกลางปัจจัยความผันผวนต่างๆ ธนาคารภายใต้การบริหารของผยง ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ในปี 2561 ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 28,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.0% ในปี 2562 ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% และช่วง 9 เดือนปี 2563 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 54,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% ขณะที่ไตรมาส 3 กำไรจากการดำเนินงาน เท่ากับ 16,572 ล้านบาท 16.0% ท่ามกลางสภาวะดอกเบี้ยนโยบายที่ถูกปรับลดจนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19

โดยธนาคารได้วางแผนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการตอบโจทย์ธุรกิจด้านดิจิทัล ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ

กลุ่มภาครัฐ ธนาคารได้วางยุทธศาสตร์การต่อยอดธุรกิจจากคู่ค้าของลูกค้า หรือที่เรียกว่า X2G2X ที่มีจุดเริ่มต้นจาก G คือ Government จากที่ธนาคารเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารให้บริการด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินอย่างครบวงจร สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ โดยแบ่งตามประเภทธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจการเกษตร ธุรกิจก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริการ และธุรกิจอุตสาหกรรม

กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ธนาคารได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารให้บริการสินเชื่อที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านเงินทุนหมุนเวียนและการขยายกิจการ ทั้งลูกค้าในกลุ่มภาคการผลิต บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก การเกษตร รวมถึงธุรกิจนำเข้าและส่งออก

กลุ่มลูกค้ารายย่อย ธนาคารมุ่งสร้างการเติบโตและสร้างกำไรอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน ผ่านโครงการต่างๆ ทั้งการขยายฐานลูกค้าด้วยการต่อยอดจากโครงการภาครัฐ พัฒนาช่องทางการบริการ ยกระดับการให้บริการในทุกมิติ โดย ธนาคารได้ขยายบริการ Krungthai NEXT จนปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 9.95 ล้านราย และอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่เข้าไปมีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ คือ "เป๋าตัง" เพื่อตอบสนองโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ได้ปรับสู่การเป็น G-Wallet อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินได้สะดวกมากขึ้น

นักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม
ภายใต้การนำของผยงได้ให้ความสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) โดยธนาคารได้ดำเนินการผ่านกิจกรรม CSR เพื่อให้สภาพแวดล้อม สังคมและระบบเศรษฐกิจดีขึ้น ด้วยการร่วมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ผ่านโครงการกรุงไทย รักชุมชน ธนาคารสนับสนุนให้ความรู้ทางด้านการเงิน (Financial Literacy) และเทคโนโลยีด้านการเงิน (Digital Literacy) เพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ทันสมัย เป็นการสร้างโอกาสใหม่ในการดำเนินธุรกิจของชุมชน

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิด กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน "Sustainable Banking" ไปยังภาคส่วนอื่นๆ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน

และในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทยที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ผยงยังมีภารกิจที่ต้องเร่งผลักดันให้เกิดการ่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการพัฒนาระบบธนาคารพาณิชย์ให้เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจและตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไทยในทุกภาคส่วน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4