เอเพ็กซ์ ทุ่มงบ 300 ล้านบาท เปิด “เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center)” ยกระดับสู่การเป็น ศูนย์ความงามและสุขภาพที่ใหญ่ และครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้มาตรฐาน JCI ซึ่งเป็น มาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาลระดับสากล ที่ให้บริการด้านความงามโดยเฉพาะ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพื่อรองรับการเปิดตลาดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเสริมนโยบายภาครัฐ ในการผลักดันไทยเป็นเมดิคัล ฮับในเอเชีย
พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ผู้ก่อตั้ง เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ (Apex Profound Beauty) เผยว่า “เพื่อเสริมนโยบายภาครัฐในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ (Medical Hub) เอเพ็กซ์จึงได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาท เปิด “เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center)” บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ที่จังหวัดภูเก็ต โดยกำหนดเปิดในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ เพื่อยกระดับให้เอเพ็กซ์เป็นศูนย์ความงามและสุขภาพที่ครบวงจร และใหญ่ที่สุดในเซาธ์อีสต์ เอเชีย ด้วยชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง และคุณภาพในการให้บริการที่มีมาตรฐานมากว่า 20 ปี ผนวกกับการไม่หยุดพัฒนา จึงมั่นใจว่า “เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center)” จะเป็นศูนย์การแพทย์ที่รองรับการเปิดตลาดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ด้วยมาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาลระดับสากล (JCI : Joint Connection International) ที่จะให้บริการความงามครบวงจร ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า อาทิ การปลูกผม, ยกชับผิวหน้า, กระชับสัดส่วน, การสลายไขมัน ตลอดจนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อชะลอวัย อีกทั้งยังมีแผนกผ่าตัดศัลยกรรม และแผนกทันตกรรม โดยได้ เทคโอเว่อร์ “พร้อมใจ เดนทัล” คลินิกทันตกรรมที่มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์ ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี พร้อมดูแลสุขภาพและความงามภายในช่องปาก เช่น ฟอกสีฟัน จัดฟัน เพราะฟันเป็นส่วนหนึ่งของความงามและยังสะท้อนบุคลิกภาพ อีกทั้งการจัดฟันยังสามารถช่วยปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้อีกด้วย
ปัจุบันเอเพ็กซ์มีทั้งหมด 15 สาขาทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น Stand Alone Shop 4 แห่ง ซึ่งกำลังจะยกระดับให้เป็น “เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center)” เช่นสาขาทองหล่อ และ 11 แห่งเป็นช็อปที่อยู่ในศูนย์การค้า โดยมีฐานลูกค้าเป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย อาทิ อเมริกัน ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ส่วนที่บินมาจากต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน และอินโดนีเซีย เป็นต้น โดยบริการที่เป็นรายได้หลักมากกว่า 50% มาจากการบริการความงามบนใบหน้าและผิวพรรณ ซึ่งในอนาคตภายในระยะเวลา 5 ปี จะขยายเพิ่มอีกประมาณ 20 แห่ง โดยคาดว่าจะเป็น Stand Alone Shop เพิ่มปีละแห่ง โดยกลางปีหน้าจะเปิดสาขาเพลินจิต ในกรุงเทพฯ รวมถึงภูมิภาคต่างๆ ในปีถัดๆ ไป และจะเปิดเป็นช็อปในศูนย์การค้าปีละ 2-3 แห่ง เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดความงามและสุขภาพที่มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการตั้งศูนย์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ขึ้น เพื่อฝึกบุคลากรให้เพียงพอและรองรับในการขยายสาขาที่จะเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังจะเสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์ความงาม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสร้างแบรนด์และความแกร่ง
“นอกจากนี้ยังได้วางแผนที่จะขยาย “เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center)” ออกไปยังต่างประเทศ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ หรือตะวันออกกลาง โดยจะเป็นการขยายแบบร่วมทุน เพื่อให้ “เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center)” เป็นเมดิคัล ฮับ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” พญ.นันทภัทร์ กล่าวทิ้งท้าย