ด้าน รศ.ทพ.ประทีป พันธุมวนิช ประธานฝ่ายวิชาการและวางแผน โครงการประสานความร่วมมือเพื่อสังคมไทยไร้ฟันผุ (The Alliance for a Cavity-Free Future หรือ ACFF) และอดีตคณบดี คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ได้กล่าวว่า "ทางองค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ได้แนะนำให้ประเทศสมาชิกได้มีการส่งเสริมเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน โดยเฉพาะโรคฟันผุที่เกิดขึ้นในเด็ก จึงทำให้เกิด ACFF ที่จัดตั้งขึ้นมาโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ มีเป้าหมายที่จะหยุดการเกิดโรคฟันผุทั่วโลก โดยที่ผ่านมาได้มีการจัดทำแคมเปญรณรงค์แก้ไขปัญหาโรคฟันผุในหลายประเทศ อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน, ตุรกี, อินเดีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, บราซิล ฯลฯ สำหรับในประเทศไทยจัดขึ้นโดยโครงการประสานความร่วมมือเพื่อสังคมไทยไร้ฟันผุ (The Alliance for a Cavity -Free Future หรือ ACFF Thailand) ภายใต้ความร่วมมือของสำนักทันตสาธารณสุข, สำนักอนามัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ, เครือข่ายผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย, ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน ได้แก่ คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความสำคัญเรื่องการดูแลรักษาและป้องกันโรคฟันผุ ให้เป็นพันธกิจด้านสาธารณสุขระดับโลก, ส่งเสริมและผลักดันให้คณะทันตแพทย์, บุคลากรด้านทันตสาธารณ สุขทุกภาคส่วนได้มีเกณฑ์การตรวจและวินิจฉัย หาแนวทางป้องกันและรักษาโรคฟันผุที่เป็นมาตรฐานเดียว กัน ทั้งนี้เพื่อให้คนไทยจะได้มีสุขภาพฟันที่ดีในทุกช่วงวัยของชีวิต และบรรลุเป้าหมายสำคัญตามที่ทุกประเทศรวมถึงประเทศไทยได้ตั้งไว้คือ เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี ค.ศ.2026 (หรือ พ.ศ.2569) จะต้องปราศจากรูฟันผุ ครับ" รศ.ทพ.ประทีป กล่าว