“ล้างจุดซ่อนเร้น” เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

พุธ ๒๗ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๒๘
สาวๆ หลายคนอาจละเลยการล้างจุดซ่อนเร้น เพราะมองว่าน้ำเปล่าอย่างเดียวก็เพียงพอ บ้างก็ว่าสบู่ที่ใช้ชำระล้างผิวกายก็ใช้ได้ จึงเกิดเป็นข้อสงสัยว่า ควรทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นของคุณผู้หญิงอย่างไรให้ถูกวิธี แล้วทำไมการใช้น้ำเปล่าอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ ซึ่งต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดเหงื่อไคลในชีวิตประจำวัน ทั้งกิจกรรมที่ทำ สภาพอากาศ การสวมใส่เสื้อผ้า ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อรา จนทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งสาเหตุนั้นมีมากมาย ดังนี้...

การทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอ หลังจากเสร็จสิ้นธุระหนัก หรือธุระเบา ควรดูแลจุดซ่อนเร้นด้วยการใช้กระดาษชำระซับให้แห้งสะอาดทันที และควรเช็ดจากด้านหน้าไปทางด้านหลัง อย่าเช็ดจากด้านหลังมาด้านหน้าเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคที่ตกค้างจากอุจจาระเข้าสู่ช่องคลอด

การสวมกางเกงใน หรือเสื้อผ้าที่คับรัดจนเกินไป เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เหงื่อออกตามจุดอับต่างๆ จึงทำให้จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นมาได้ ควรเลือกสวมกางเกงใน หรือเสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี และไม่คับอัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้อากาศในบริเวณนั้นระบายได้สะดวก

ในช่วงมีประจำเดือน ปากมดลูกนั้นเปิดขยายอยู่ จึงทำให้เชื้อโรคหรือแบคทีเรียบุกเข้าไปได้ง่ายกว่าช่วงเวลาปกติ หากดูแลจุดซ่อนเร้นไม่ดี อาจจะเป็นสาเหตุให้มดลูกและปีกมดลูกเกิดการติดเชื้อได้ วิธีที่จะปกป้องจุดซ่อนเร้นให้ห่างจากการติดเชื้อ คือ ทำความสะอาดให้หมดจด เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียแล้ว

จุดซ่อนเร้นเสียสมดุล เพราะจุดซ่อนเร้นมีกรดแลคติค ที่ช่วยปรับสภาพแวดล้อมภายในช่องคลอดให้เป็นกรดอ่อนๆ ทำหน้าที่ป้องกันการเข้ามารุกรานของเชื้อโรคต่างๆ หากกรดแลคติค ภายในจุดซ่อนเร้นลดลงก็อาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งสาเหตุนี้เกิดมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง

นอกจากนี้คุณสาวๆ จำนวนไม่น้อย ต้องพบเจอกับปัญหาตกขาวที่เกิดจากเชื้อราในช่องคลอด จะมีสีขาวหรือเหลือง และเป็นก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นเหม็นอับ ปัสสาวะแสบขัด โดยช่องคลอดจะเกิดการระคายเคืองจนทำให้คันยิบๆ แทบทนไม่ได้ ซึ่งบางท่านมีอาการรุนแรงมากคันมาถึงบริเวณขาหนีบและมีอาการแสบแดง ซึ่งถ้าตกขาวมีสีเขียวปนเหลือง เป็นฟองมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ และมีอาการคันร่วมด้วยแล้ว ให้นึกถึงโรคพยาธิในช่องคลอด โดยสาเหตุต่างๆ ของการเกิดเชื้อราในช่องคลอด มีดังนี้

เกิดจากความอับชื้น ถ้ายิ่งรัด ยิ่งอับ เชื้อราจะมาได้ง่าย และหากยิ่งเราใช้สบู่ที่มีค่า pH ไม่สมดุลร่วมด้วย เชื้อโรคดีๆ ในช่องคลอดของเราก็จะถูกทำลาย ซึ่งเมื่อไม่มีอาวุธมาต่อสู้กับเชื้อราแล้วก็มีโอกาสเป็นได้เหมือนกัน

การใส่แผ่นอนามัย โดยไม่เปลี่ยนระหว่างวันหรือใส่เป็นเวลานานๆ เพราะแผ่นอนามัยจะทำให้ยิ่งเกิดความอับชื้นเป็นทวีคูณ ซึ่งข้อนี้คุณหมอแนะนำว่า หากไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีรอบเดือนไม่ควรใส่แผ่นอนามัยจะดีกว่า

ยาปฏิชีวนะ บางท่านเป็นหวัดเรื้อรัง หรือเป็นสิว ต้องกินยารักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวยาจะไปทำลายเจ้าเชื้อแบคทีเรีย"แลคโตบาซิลลัส" ที่มีหน้าที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด ทีนี้จึงเป็นโอกาสให้เชื้อราเจริญเติบโตอยู่ภายในช่องคลอด ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ตามมา ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรรับประทานยาปฏิชีวนะ ติดต่อกันเป็นเวลานาน

และอีกสาเหตุที่หลายท่านกังวลใจ เนื่องจากโรคดังกล่าวมักไม่ได้ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ และสำหรับสิ่งที่ควรทำเมื่อสงสัยว่าจะเกิดโรคนี้ขึ้นกับตัวเอง มีดังต่อไปนี้...

1. เบื้องต้นแนะนำว่าให้ทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวให้มากเข้าไว้ เพราะ "แลคโตบาซิลลัส" ช่วยคุณได้

2. พักผ่อนให้พอ ไม่เครียด ทำร่างกายให้แข็งแรง จะได้มีภูมิต้านทานอยู่เสมอ

3. ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มี pH สมดุล และมีส่วนผสมของแลคโตบาซิลลัส

4. ใส่ชั้นในเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เวลาซักทำความสะอาดแล้ว ควรตากในที่แดดส่องถึง

5. สำหรับคนที่เริ่มมีอาการของโรคช่องคลอดติดเชื้อรา ควรเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด หรือควรต้มในน้ำเดือด 10-15 นาที แล้วตากแดดให้แห้งก่อนนำมาใช้ใหม่

6. อาการของโรคสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยารับประทาน และยาสอดหรือยาเหน็บ แต่วิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือการไปพบแพทย์ด้วยตัวเอง ไม่แนะนำให้ซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจจะไม่ตรงกับโรค ทำให้อาการที่เป็นอยู่อาจยิ่งลุกลามและรุนแรงขึ้นอีกได้

ที่สำคัญเมื่อเกิดอาการแล้วก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะอาจทำให้เชื้อโรคลุกลามเกิดการอักเสบ เป็นฝีที่ปีกมดลูกต้องผ่าตัด จนถึงขั้นต้องตัดมดลูกหรือปีกมดลูกทิ้ง ดังนั้นหากพบสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับการตกขาวต้องรีบรักษาหรือพบแพทย์โดยด่วน

รวมทั้งการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ใกล้เคียงกับธรรมชาติของจุดซ่อนเร้น เพื่อรักษาสมดุลและป้องกันเชื้อแบคทีเรียจากภายนอก จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เกิดความสะอาดตรงจุดซ่อนเร้นได้เป็นอย่างดี เพื่อความสะอาดอย่างอ่อนโยน และทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณสดใส มั่นใจ ยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4