PM2.5 ฝุ่นจิ๋ว ที่ไม่จิ๋วกับผลกระทบทางสมอง

พุธ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๔:๑๕
มลพิษทางอากาศ ทำลายร่างกายมนุษย์เราได้หลายระบบ โดยเฉพาะในเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น ระบบคมนาคมขนส่งที่คับคั่ง รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดมลภาวะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ และอวัยวะที่สำคัญอย่าง "สมอง" อีกด้วย

เรืออากาศโท นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จักฝุ่นขนาดจิ๋วที่เรียกว่า PM 2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมประมาณ 20 - 30 เท่า ฝุ่น PM2.5 นี้ไม่ใช่เป็นมลพิษทางอากาศชนิดเดียวที่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่ยังมีก๊าซพิษอีกหลายอย่าง เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ รวมทั้งโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศที่เราหายใจอีกด้วย ทั้งนี้ ซึ่งปัญหาของมลพิษทางอากาศไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังพบได้ตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก และมากกว่า 90% ของประชากรทั่วโลกก็ได้รับมลพิษทางอากาศที่เกินค่ามาตรฐานเช่นกัน ก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพกระจายเป็นวงกว้าง จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า ในทุกปีมีประชากรถึง 7 ล้านคนที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากการได้รับมลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจ และ โรคสมอง

ทั้งนี้ ฝุ่น PM 2.5 สามารถซึมผ่านเข้าสู่เส้นเลือด รวมทั้งผ่านเข้าทางเส้นประสาทการรับกลิ่นที่อยู่ในโพรงจมูก และผ่านเข้าไปยังสมองได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการอักเสบในสมอง มีการหลั่งสารอักเสบชนิดต่างๆ ที่ทำให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บ เกิดภาวะสมองเสื่อมเร็วกว่าปกติ รวมทั้งพบว่าทำให้เกิดการก่อตัวของก้อนโปรตีนที่ผิดปกติในสมอง ที่มีลักษณะคล้ายกับคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคพาร์กินสัน และยังทำให้สมองส่วนเนื้อขาว (White Matter) มีการฝ่อเหี่ยวมากกว่าคนปกติอีกด้วย

ในเด็กก็เช่นกัน มีหลายงานวิจัยที่ยืนยันถึงความสัมพันธ์ของ PM 2.5 ต่อความผิดปกติทางด้านพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก อาทิ มีสติปัญญาด้อยลง การพัฒนาการช้าลง มีปัญหาด้านการได้ยินและการพูด รวมทั้งยังมีผลทำให้เกิดภาวะสมาธิสั้น และภาวะออทิซึม เพิ่มมากขึ้นถึง 68% สำหรับในผู้ใหญ่พบว่า การได้รับฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์เพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า และทำให้เกิดโรคพาร์กินสันเพิ่มได้ถึง 34% เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดสมอง (Stroke) เพิ่มขึ้น โดยระดับ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นจะยิ่งเพิ่มระดับความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดสมอง โดยในกลุ่มคนที่เป็นโรคเส้นเลือดสมองอยู่แล้วหากได้รับ PM 2.5 ยังเป็นการเพิ่มอัตราการเสียชีวิตให้กับคนกลุ่มนี้อีกด้วย ที่สำคัญสำหรับคนรักสุขภาพถ้ายิ่งออกกำลังกายในสถานที่มีฝุ่น PM2.5สูงๆ ก็ยิ่งเกิดผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าได้ผลดี เพราะจะเพิ่มอัตราการเกิดโรคเส้นเลือดสมองได้มากกว่า

การป้องกันฝุ่นจิ๋วที่ไม่จิ๋วต่อผลกระทบกับร่างกายเบื้องต้นที่ทำกันได้ง่ายในชีวิตประจำวัน คือ หลีกเลี่ยงเข้าไปในสถานที่ที่มีฝุ่นขนาดจิ๋วในปริมาณสูง ใช้เครื่องป้องกันอย่างเหมาะสม เช่น การใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น และเลือกรับประทานผักและผลไม้(ในปริมาณที่มากกว่า 3.5 serving ต่อวัน) เพราะจะช่วยลดผลกระทบของฝุ่นจิ๋วต่อร่างกายได้ อันเนื่องมาจากสารต้านอนุมูลอิสระที่มีในผักและผลไม้ และให้ทุกคนหันมาตระหนักถึงการช่วยกันลดมลภาวะในอากาศ เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพทั้งตัวเราเองและคนที่เรารัก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4