แคปซูลมังสวิรัติทั้งแบบเปลือกแข็งและนิ่มนั้น ล้วนผลิตขึ้นโดยใช้วัสดุจากพืชผัก เช่น แป้งมันสำปะหลัง
เมื่อเทียบกับแคปซูลเจลาตินที่ผลิตขึ้นโดยใช้น้ำสลายคอลลาเจนจากวัว ปลา หรือหมูแล้ว แคปซูลมังสวิรัติตอบโจทย์ความต้องการของคนกินมังสวิรัติได้ดีกว่า เช่นเดียวกับผู้นับถือบางศาสนาหรือผู้ที่อยู่ในชาติพันธุ์บางกลุ่มซึ่งคนเหล่านี้ถูกห้ามไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์
แคปซูลที่มาจากพืชเหล่านี้ไม่มีสารเคมีเติมแต่ง และก่อมลพิษน้อยมากระหว่างกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ความหนืดของส่วนผสมจากพืชยังทำให้แคปซูลมังสวิรัติเหมาะกับส่วนประกอบบรรจุในเม็ดแคปซูลหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปลา สารสกัดจากพืช และสารอาหารอื่น ๆ ที่ออกซิไดซ์ได้ง่าย เพื่อให้สารอาหารเหล่านี้คงอยู่ได้ดีขึ้น
ปัจจุบันผู้คนต่างต้องการมีสุขภาพแข็งแรง ทำให้พวกเขามองหาผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพ และปลอดภัยมากขึ้น โดยในแวดวงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น ผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์หลายราย เช่น Healthy Care, BioBalance, doTERRA, Walgreens, Sam's Club, Colfarm, Benemax, Healtheries และ Sports Research ต่างก็ได้เริ่มมองหาตัวเลือกจากพืชเพื่อแทนที่แคปซูลเจลาติน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีมุมมองเปลี่ยนไปในเรื่องสุขภาพ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และความพึงพอใจในการบริโภค
Kathryn Peters รองประธานบริหารของ SPINS ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีข้อมูลที่มุ่งเน้นเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี กล่าวว่า “เรายังคงมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในกระบวนการคิดของผู้จับจ่ายใช้สอย เมื่อต้องเลือกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ทั่วไป”
คุณ Kathryn เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้ผู้คนทั่วไปยังคงให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจะยังคงโดดเด่นเหนือผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่น ๆ เพราะผู้บริโภคยังคงลงทุนซื้อสินค้าที่ดีต่อตนเองมากกว่าในการนำไปรับประทาน ใช้กับร่างกายของตนเอง และดูแลบ้าน
ตัวแทนจาก VegeGel ซึ่งเป็นผู้ผลิตแคปซูลจากพืชตระกูลแป้งชั้นนำรายหนึ่งของโลก เปิดเผยว่า ความแตกต่างที่ชัดเจนจะปรากฏให้เห็นในธุรกิจองค์กรและเจ้าของแบรนด์ที่ใช้แคปซูลมังสวิรัติในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกับผู้ที่ยังคงใช้แคปซูลแบบเดิม
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200813/2884837-1
คำบรรยายภาพ - แคปซูลมังสวิรัติกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับโลกในปี 2563