นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๓ จังหวัด ดังนี้ น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมฝั่งของจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ๒ จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดย อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ของ อำเภอป่าโมก (ตำบลโผงเผง และบางเสด็จ) พระนครศรีอยุธยา ราษฎรเดือดร้อน ๑๓,๔๒๕ ครัวเรือน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ใน ๙ อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ บางบาล เสนา บางไทร มหาราช นครหลวง พระนครศรีอยุธยา บ้านแพรก และบางปะอิน นอกจากนี้ภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ๓ อำเภอ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ และปากพนัง แนวโน้มสถานการณ์หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ๑-๒ วันนี้ สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี และพัทลุง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างต่อเนื่อง โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำเครื่องจักรกล รถยนต์ เรือท้องแบน ๒๖ ลำ ออกให้บริการขนย้าย ทรัพย์สินสิ่งของ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม ถุงยังชีพ ๕๐๐ ชุด เครื่องอุปโภคและบริโภค ไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมใน การรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ ๑๘- ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ จากพายุโซนร้อน “นูล(Noul)” กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๔ ประจวบครีขันธ์ เขต ๑๑ สุราษฎร์ธานี เขต ๑๒ สงขลา เขต ๑๗ จันทบุรี เขต ๑๘ ภูเก็ต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ประจวบครีขันธ์ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ผู้ส่ง : pr
เบอร์โทรศัพท์ : 02 2432200