มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) โดยสำนักการศึกษาต่อเนื่อง หนึ่งในองค์กรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว ได้มีการจัดสรรงบประมาณสวนหนึ่งมาใช้ในการสร้างงาน สร้างรายได้ โดยการจัดฝึกอบรมวิชาชีพในรูปแบบต่างๆ ให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ว่างงาน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ภายใต้โครงการบริการวิชาการแก่สังคม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักสำคัญของมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดจับมือกับศูนย์ควบคุมความประพฤติเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จัดอบรมหลักสูตร “การเพ้นท์เสื้อเพื่อการประกอบอาชีพ” ให้กับผู้ถูกคุมประพฤติกว่า 30 คน โดยการนำเอาศิลปะการเพ้นท์มาวาดลวดลายต่างๆ ลงบนเสื้อ เพื่อหวังเป็นช่องทางในการสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวอีกทางหนึ่ง
รศ.ธีรารักษ์ โพธิสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษาต่อเนื่อง มสธ. กล่าวว่า นอกเหนือภารกิจหลักในการผลิตบัณฑิตคุณภาพคืนสู่สังคมแล้ว แต่ละปีมสธ.ยังให้ความสำคัญในการให้บริการวิชาการ แก่สังคมมาโดยตลอด ในส่วนของสำนักศึกษาต่อเนื่องเราได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ การอบรมเพาะเห็ด อบรมการจัดรายการวิทยุ การทำงานฝีมือ การฝึกอาชีพในรูปแบบต่างๆ โดยแต่ละหลักสูตรการอบรมแตกต่างกันออกไปตามความสนใจของผู้เข้าร่วมอบรม อย่างไรก็ตามปีนี้เรามุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เมื่อเทียบกับคนทั่วไปโอกาสเข้าถึงโครงการน้อยมาก แต่ขณะเดียวกันเราก็ยังเปิดให้กับคนทั่วไปได้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
“การเพ้นท์เสื้อเป็นงานศิลปะที่นอกจากจะนำไปประกอบอาชีพได้จริง ยังมีส่วนช่วยให้ผู้เรียนได้ ฝึกสมาธิ และเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตัวเอง เราไม่ได้สอนแค่ให้เขาทำเป็นเพียงอย่างเดียว ในอนาคตเราจะสร้างตลาดให้เขาสามารถนำสินค้าไปจำหน่ายได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเท่ากับเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เข้าไปเติมเต็มโอกาสให้กับคนเหล่านี้ เพื่อให้กลับมาเป็นคนดีของสังคมอย่างภาคภูมิใจ ”
ด้านอาจารย์ภาวินี ปุริมปรัชญ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการและวิทยากรถ่ายทอดความรู้ บอกว่า หลักสูตรการเพ้นท์เสื้อเพื่อการประกอบอาชีพในปีนี้จะจัดขึ้นทั้งหมด 4 รุ่น และรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 ใช้เวลาในการอบรมเพียงวันเดียว เริ่มสอนตั้งแต่การวาดภาพลงบนเสื้อยืด การเลือกใช้สีต่างๆ การเตรียมอุปกรณ์ เช่น เสื้อยืด สีอะครีลิค พู่กัน ดินสอ จานสี กระดาษลอกลาย แผ่นรองด้านหลัง กระดาษเทาขาวอย่างหนา กระดาษทิชชู่ เป็นต้น
ส่วนขั้นตอนการทำเริ่มจากซักเสื้อให้สะอาด ตากให้แห้ง จากนั้นนำไปรีดให้เรียบ แล้วนำกระดาษแข็งสอดเข้าไปด้านในเสื้อ เพื่อป้องกันสีและน้ำยาซึมเลอะผ้าด้านหลัง นำลวดลายที่ต้องการวางบนผ้า และวาดลายบนเสื้อโดยใช้กระดาษลอกลายลงบนเสื้อตามต้องการ ในขั้นตอนนี้หากไม่ต้องการวาดตามแบบ ก็สามารถวาดรูปที่ต้องการลงบนเสื้อได้เลย จากนั้นจึงใช้สีอะครีลิคสีขาวรองพื้นผ้าใบบริเวณลายให้ทั่ว และรอให้สีแห้ง จึงลงสีตามต้องการให้สวยงาม หลังจากสีแห้งแล้วใช้ผ้าขาวหรือกระดาษไขวางบนลายรีดด้วยความร้อนที่เหมาะสมกับผ้า ทิ้งไว้ 2 วัน เพื่อให้น้ำยาเซ็ทตัว เพียงเท่านี้ก็จะได้เสื้อลวดลายสวยงาม ที่นอกจากเป็นของขวัญของฝากแล้ว ยังสามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนนายอดินันท์ แสงหิรัญ ประธานศูนย์ควบคุมความประพฤติเขตบางขุนเทียน บอกว่ารู้สึก ดีใจที่มสธ. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างโอกาสให้กับผู้ถูกคุมประพฤติ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงกิจกรรมดีๆ เราเองอยากให้พวกเขามีรายได้และมีอาชีพที่มั่นคง เพื่อสร้างแรงจูงใจไม่หันกลับไปทำผิดซ้ำอีก ซึ่งงานฝีมือกำลังได้รับความนิยมเชื่อว่าสามารถนำไปประกอบอาชีพได้อย่างแน่นอน และการที่ มสธ.เองเข้ามาสอนถึงที่จึงเป็นเสมือนการเข้ามาเปิดโลกทัศน์ให้กับคนเหล่านี้ด้วย
ซึ่งเสียงตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการอย่างนางสาวไก่ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ที่พ้นโทษจำคุกมาแล้ว 7 เดือน และยังต้องมารายงานตัวที่ศูนย์คุมประพฤติทุกเดือนก็บอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาเรียนเพ้นท์เสื้อ ซึ่งอยากเรียนมานานแล้ว เพราะชอบงานศิลปะ อยากหาความรู้เทคนิควิธีการทำที่ถูกต้อง หากวันข้างหน้าถ้ามีโอกาสตั้งใจจะเพ้นท์และรองเท้าขาย เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว
ขณะที่นายชัย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ที่มาร่วมโครงการนี้ และเพ้นท์เสื้อฝากลูกชายวัย 1 ขวบก็บอกว่า ทำงานศิลปะทำให้ใจเย็นขึ้น และที่สำคัญความรู้และเทคนิควิธีการเพ้นท์เสื้อที่ได้มาก็สามารถนำไปใช้งานได้จริงหากมีการฝึกฝนฝีมืออยู่ตลอดเวลา และมองว่าการที่มีเจ้าหน้าที่มาอบรมให้แบบนี้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้
การบริการวิชาการวิชาการแก่สังคม ของมสธ. โดยสำนักการศึกษาต่อเนื่อง ที่จัดขึ้น ในครั้งนี้จึงเป็นเสมือนอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับผู้ถูกคุมประพฤติ และยังมีหลักสูตรการฝึกอบรมดีๆ อีกหลากหลายโครงการที่เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักการศึกษาต่อเนื่อง โทร. 0-2504 — 7715 — 16