(โลโก้: http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/20101208/425503 )
“การตรวจเลือดมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการคาดการณ์และจัดการกับการแพ้อาหารอย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.ฟิลิป เอ. ไอเกนมานน์ (Dr.Philippe A. Eigenmann) หัวหน้าแผนกภูมิแพ้ในเด็กจากโรงพยาบาลเด็กมหาวิทยาลัยเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าว
การแพ้อาหารเป็นปัญหาสาธารณสุขที่กำลังสร้างความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก ผลการศึกษาล่าสุดในสหรัฐอเมริกาพบว่า 5% ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และ 4% ของเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ หรือเท่ากับประชากร 10-12 ล้านคน ต้องทุกข์ทรมานจากการแพ้อาหาร โดยกลุ่มอาหารหลักที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งประกอบด้วยไข่ไก่ นมวัว ถั่วชนิดต่างๆ ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และอาหารทะเลนั้น คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ของอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงในสหรัฐ การแพ้อาหารสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาการแพ้อาหารนอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้และรักษาไปตามอาการที่เกิดขึ้น การวินิจฉัยโรคแต่เนิ่นๆ เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้รักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้น
“แนวทางใหม่ว่าด้วยการรักษาอาการแพ้อาหาร และเทคโนโลยีใหม่ๆในการวินิจฉัยโรค ช่วยให้พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กที่มีอาการแพ้อาหารได้รับข้อมูลและทางเลือกที่ทำให้ตัดสินใจรักษาโรคได้ง่ายขึ้น การเลี้ยงดูบุตรหลานที่แพ้อาหารยังคงเป็นความท้าทาย แต่ความรู้ใหม่ๆที่ได้ทำให้เรามีอำนาจมากขึ้นในการควบคุมผลลัพธ์ที่ออกมา” แนนซี่ แซนเดอร์ (Nancy Sander) ประธานและผู้ก่อตั้งเครือข่ายโรคภูมิแพ้และโรคหืด, แม่เด็กที่ป่วยเป็นโรคหืด (Allergy & Asthma Network, Mothers of Asthmatics) ในสหรัฐ กล่าว
คณะผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติแนะนำว่า ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทุกคนควรได้รับการตรวจและยืนยันว่าเป็นภูมิแพ้จริงด้วยการประเมินที่เหมาะสมอย่างการตรวจด้วย ImmunoCAP ของ Phadia เพราะประวัติการรักษาอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อการวินิจฉัยโรค การตรวจเลือดจะช่วยเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของอาการแพ้ ช่วยยืนยันว่าแพ้หรือไม่แพ้อาหารอะไร ทำให้ไม่ต้องเข้ารับการรักษาหรือควบคุมอาหารโดยไม่จำเป็น เนื่องจากการงดอาหารจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและอาจทำให้ผู้ป่วยขาดสารอาหารและเติบโตไม่สมวัยได้ โดยเฉพาะในเด็ก
การตรวจเลือดสามารถทำได้อย่างง่ายดายและเชื่อถือได้ไม่เหมือนการตรวจด้วยวิธีสะกิด (skin prick testing) โดยการตรวจเลือดสามารถทำได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงอายุ สภาพผิว ยาที่ใช้รักษา อาการของโรค กิจกรรมของโรค หรือการคั้งครรภ์ของผู้ป่วย นอกจากนั้นยังอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของการแพ้ที่ละเอียดกว่าด้วย
จีน ฟอร์โชเน (Jean Forcione) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Phadia AB กล่าวว่า เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีผู้ตระหนักว่าชุดตรวจเลือด ImmunoCAP มีประสิทธิภาพทางคลินิกเหนือกว่าในการวินิจฉัยและตรวจโรคภูมิแพ้อาหาร และสิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าเราเป็นผู้นำในเรื่องนี้
สถาบันภูมิแพ้วิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยาทางคลินิกแห่งยุโรป (European Academy of Allergy and Clinical Immunology: EAACI) ได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการพัฒนาแนวทางสำหรับการวินิจฉัยและจัดการการแพ้อาหาร ซึ่งแนวทางการพัฒนาของทางสถาบันมีความคล้ายคลึงกับแนวทางของสหรัฐ และเมื่อทางสถาบันพัฒนาแนวทางของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว แนวทางของสหรัฐและยุโรปจะถูกนำมาผสมผสานกัน
ขณะเดียวกันสถาบันเพื่อความเป็นเลิศทางคลินิกแห่งชาติ (National Institute of Clinical Excellence: NICE) กำลังพัฒนาแนวทางการรักษาอาการแพ้อาหารในเด็กและเยาวชน ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะได้รับการเปิดเผยในช่วงต้นปี 2554
เกี่ยวกับ Phadia
บริษัท Phadia AB เป็นผู้พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายระบบตรวจเลือดแบบครบวงจร เพื่อรองรับการวินิจฉัยและตรวจโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคแพ้ภูมิตัวเอง ภาระกิจหลักของเราคือการพัฒนาวิธีจัดการโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคแพ้ภูมิตัวเอง ด้วยการจัดหาความรู้ความเชี่ยวชาญทางคลินิกและเทคโนโลยีการวินิจฉัยที่ทันสมัยให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เราเป็นผู้จัดชุดตรวจโรคภูมิแพ้ให้กับห้องทดลองกว่า 7 ใน 10 แห่งของทั้งหมดทั่วโลก และเป็นผู้จัดชุดตรวจโรคแพ้ภูมิตัวเองให้กับห้องทดลอง 4 ใน 10 แห่งจากทั้งหมดทั่วยุโรป
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางใหม่ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐได้ที่http://www.niaid.nih.gov/news/newsreleases/2010/Pages/FoodAllergyGuidelines2010.aspx
(ด้วยความยาวของ URL จึงอาจจำเป็นต้อง copy และ paste ลิงค์นี้ใน internet browser โดยไม่ต้องเว้นวรรค)
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Phadia หรือ ImmunoCAP ได้ที่ http://www.phadia.com
สื่อกรุณาติดต่อ:
อูล์ฟ บลาดิน (Ulf Bladin)
รองประธานฝ่ายการตลาด สื่อสารองค์กร และกิจการเชิงวิทยาศาสตร์
บริษัท Phadia AB
P.O. Box 6460
SE-75137 Uppsala, Sweden
โทรศัพท์: +46-18-16-50-00
โทรสาร: +46-18-14-03-58
อีเมล: [email protected]
แหล่งข่าว: Phadia
AsiaNet 42507
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --