ปภ.เตือนฤดูฝนนี้ระวังอันตรายจากดินถล่ม

พฤหัส ๐๒ มิถุนายน ๒๐๑๑ ๑๕:๕๙
ช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยเกิดดินถล่มบ่อยครั้งมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานบนที่ลาดเชิงเขา ประกอบกับไม่มีรากไม้ยึดเกาะหน้าดินทำให้ดินภูเขาที่ชุ่มน้ำอยู่แล้ว ไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้จนพังถล่มและเลื่อนไหลลงมา สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อลดความสูญเสียดังกล่าว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอแนะข้อสังเกตและวิธีปฏิบัติกรณีเกิดดินถล่ม ดังนี้

ลักษณะของพื้นที่เสี่ยงเกิดดินถล่ม อยู่บริเวณภูเขา ใกล้ลำห้วย มีร่องรอยดินไหลหรือดินเลื่อนบนภูเขามีรอยแยกบนพื้นดินบนภูเขา อยู่บนเนินหน้าหุบเขา และเคยมีร่องรอยการเกิดดินโคลนถล่ม มีกองหินเนินทรายปนโคลนและต้นไม้ในลำห้วยใกล้หมู่บ้าน รวมถึงพื้นห้วยมีก้อนหินขนาดเล็กใหญ่ปนกันตลอดท้องน้ำ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม รวม 51 จังหวัด 323 อำเภอ 1,056 ตำบล 6,450 หมู่บ้าน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ดินโคลนถล่มรุนแรงมากขึ้นเกิดจากปัจจัย 5 ด้าน ได้แก่ 1) สภาพธรณีวิทยา เป็นหินเนื้อแน่น เมื่อเกิดการผุกร่อน ทำให้เกิดชั้นดินหนา 2) สภาพภูมิอากาศ เกิดฝนตก

ติดต่อกันเป็นเวลานาน 3) สภาพภูมิประเทศ เป็นภูเขาและหน้าผาลาดชัน 4) การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโดยการตัดถนนผ่านไหล่เขาหรือภูเขาลาดชัน 5) การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร โดยปลูกพืชชนิดเดียวบนที่ลาดเชิงเขา เช่น ยางพารา ข้าวโพด เป็นต้น ซึ่งพืชชนิดนี้มีรากตื้นและเกาะชั้นดินที่มีความลึกระดับเดียว ทำให้เสถียรภาพของชั้นดินลดลง

การเตรียมความพร้อมรับมือดินโคลนถล่ม

สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดดินถล่ม มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร น้ำในแม่น้ำมีสีขุ่นข้นและระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลปนมากับน้ำ มีเสียงดังผิดปกติบริเวณภูเขา ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มขึ้นได้ ให้เตรียมอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยในทันที

การอพยพหนีภัยดินถล่ม ให้อพยพไปตามเส้นทางที่พ้นจากแนวการไหลของดินถล่ม ขึ้นที่สูงหรือสถานที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีแนวการไหลของดิน และเส้นทางที่กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก หากจำเป็นต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ให้ใช้เชือกผูกลำตัวแล้วยึดติดไว้กับต้นไม้หรือสิ่งปลูกสร้างที่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดจมน้ำ ห้ามว่ายน้ำหนี

โดยเด็ดขาด เพราะอาจกระแทกกับซากต้นไม้หรือหินที่ไหลมาตามน้ำจนจมน้ำเสียชีวิตได้ หลังเกิดดินถล่ม ห้ามเข้าใกล้บริเวณที่เกิดดินโคลนถล่มหรือบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากอาจเกิดการพังทลายซ้ำ กำหนดเขตปลอดภัย โดยติดตั้งป้ายเตือนว่าพื้นที่ใดปลอดภัยและพื้นที่ใดเสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่มซ้ำพร้อมเร่งระบายน้ำออกจากบริเวณที่ดินถล่มให้มากที่สุดโดยทำทางเบี่ยง เพื่อไม่ให้น้ำไหลลงมาสมทบเข้าไปในมวลดินเดิมที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว

การหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศ การปฏิบัติตนตามประกาศแจ้งเตือนภัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และรู้จักสังเกตสัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติ จะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากดินโคลนถล่ม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา