นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) แถลงผลการดำเนินงานของ ปณท ในโอกาสที่ดำเนินกิจการครบ 8 ปีว่า ไปรษณีย์ไทยได้ทำหน้าที่ส่งความสุขและสนับสนุนทุกความสำเร็จให้เกิดขึ้นแก่สังคมไทยในฐานะผู้เชื่อมโยงคนไทยที่ดีที่สุด ด้วยบริการที่ครบครันทั้งการสื่อสาร ขนส่ง การเงิน และค้าปลีก โดยมีผลประกอบการนับตั้งแต่ปี 2547 — 2553 เป็นรายได้รวมทั้งสิ้นกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ผลกำไรสะสม 5,690 ล้านบาท นำส่งรายได้เข้ารัฐ 1,819 ล้านบาทและชำระภาษี ทั้งสิ้น 3,968 ล้านบาท อันเป็นส่วนหนึ่งของพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศชาติ
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยได้ทำหน้าที่ให้บริการประชาชนคนไทยเต็มศักยภาพไปพร้อมๆ กับการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการและเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน ภายใต้คำมั่นสัญญาการเป็นผู้เชื่อมโยงคนไทยที่ดีที่สุด”
ทางด้านนางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวเสริมว่า ไปรษณีย์ไทยในช่วงก้าวสู่ปีที่ 9 จะเน้นย้ำในการบรรลุภารกิจส่งความสุข และสนับสนุนทุกความสำเร็จให้เกิดขึ้นแก่สังคมไทยมากยิ่งขึ้น ให้สมกับความเชื่อมั่นและไว้วางใจที่ผู้ใช้บริการได้มอบให้ ดังเช่นรางวัล Trusted Brand ที่ได้รับเมื่อเร็ว ๆนี้
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 (ม.ค. — มิ.ย.) ปณท มีรายได้รวมทั้งสิ้น 8,067 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย 7,914 ล้านบาท คิดเป็นกำไรก่อนหักภาษี 153 ล้านบาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งมาจากโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดกว่า 500 ล้านบาท และการปรับอัตราเงินเดือนค่าจ้างร้อยละ 5 ให้แก่บุคลากรที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 50,000 บาท อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่ารายได้รวมตลอดปี 2554 จะเป็นไปตามเป้าหมาย 16,530 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนหักภาษีราว 700 ล้านบาท
“ในปีนี้นับว่าไปรษณีย์ไทยได้รับมอบภารกิจสำคัญระดับชาติหลายเรื่องด้วยกัน ได้แก่ การจัดส่งโลหิต ยา เวชภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้สภากาชาดไทยและโรงพยาบาลชั้นนำ การจัดส่งข้อสอบO-NET ข้อสอบGAT/PAT ตลอดจนการขนส่งบัตรเลือกตั้ง นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทยยังส่งเสริมธุรกิจ SMEs สนับสนุนตลาด e—commerce จะมีการจัดตั้งศูนย์บริการโลจิสติกส์เพื่อรองรับสินค้าที่รอการนำเข้า—ส่งออกไปประเทศปลายทาง และการขนส่งในเส้นทาง R3E คุนหมิงลาวกรุงเทพ”
การดำเนินงานในปีที่ 9 ไปรษณีย์ไทยจะเน้นบทบาท “ผู้ส่งความสุข ความสำเร็จสู่สังคมไทย” มากยิ่งขึ้น โดยจะพัฒนาบริการตลาดสื่อสารและขนส่งให้ครอบคลุมในลักษณะเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว หรือ one stop service เพื่อรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียนในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะธุรกิจด้านโลจิสติกส์ครบวงจร จะมีการจัดตั้งบริษัทลูกในช่วงไตรมาสที่ 4 เพื่อให้บริการขนส่งในลักษณะรวมสินค้า (Consolidating) และแยกสินค้า (Bulk Breaking) แก่กลุ่มลูกค้าองค์กร โดยจะมีจุดรับสินค้าทั้งลูกค้ารายย่อยและรายใหญ่ นอกจากนี้ยังมีแผนขยายศูนย์ไปรษณีย์ภูมิภาคเพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งในประเทศให้เร็วขึ้น
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 831 3508, 02 831 3598 ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายสื่อสารการตลาด