3 ปีเครือข่ายครูฯ สร้างพี่เลี้ยงวิชาการครูวิทย์ - คณิต สสวท.กระตุ้นทุกฝ่ายตระหนักความสำคัญการสอบ PISA ปี 2555

อังคาร ๒๓ สิงหาคม ๒๐๑๑ ๑๐:๒๖
3 ปีเครือข่ายครูฯ สร้างพี่เลี้ยงวิชาการครูวิทย์ - คณิตสสวท.กระตุ้นทุกฝ่ายตระหนักความสำคัญการสอบ PISA ปี 2555เร่งแนวสอนให้เด็กไทยคิด วิเคราะห์ ประยุกต์ความรู้ เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้

รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่าตามที่ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 1 — 3 ซึ่งเป็นโครงการนำร่องใน 10 จังหวัด โดยเพิ่มความรู้แก่ครูทั้งด้านการเรียน การสอน และการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อทำหน้าที่ครูพี่เลี้ยงวิชาการที่เข้มแข็ง จากการประเมินผลการทำงานพบว่าเกิดประสิทธิผลสามารถสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ได้ ซึ่งในที่ประชุมปฏิบัติการ 3 ปีของการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้สู่ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน ก็ได้ขอให้ครูช่วยเหลือกันแลกเปลี่ยนแนะนำความรู้ เพื่อเป็นเครือข่ายวิชาการที่ต่อเนื่องจากครูสู่ครูเพิ่มประสิทธิภาพการสอน

ที่สำคัญเดือนสิงหาคม พศ.2555 จะมีการสุ่มตัวอย่างโรงเรียนเพื่อทดสอบผลการเรียนรู้ของนักเรียนช่วงอายุ 15 ปีตามโครงการประเมินผลนักเรียนระดับนานาชาติ PISA (The Program for International Student Assessment ) โดยทดสอบ 3 ด้านคือการอ่าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ขอฝากคุณครูและผู้บริหารโรงเรียนช่วยเร่งสร้างความตระหนักให้นักเรียนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เห็นความสำคัญของการสอบนี้เพราะเป็นแนวข้อสอบที่วัดทักษะในกระบวนการเรียนรู้ของเด็กว่านำความรู้ไปใช้ประโยชน์ด้านใดได้บ้างและสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่ ที่สำคัญเป็นการวัดความรู้ทุกด้านของนักเรียนในการประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สะท้อนความมานะพยายามด้านการอ่านและวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบ ซึ่งปัจจุบันเด็กส่วนใหญ่อ่อนแอเรื่องนี้เนื่องจากคุ้นเคยกับการเลือกข้อตอบเท่านั้น

ผลการประเมิน PISA มีบทบาทสำคัญที่เชื่อมโยงสู่การปรับปรุงคุณภาพการศึกษา จึงหวังให้โรงเรียนให้ความสำคัญต่อแนวการสอนที่กระตุ้นให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ รู้จักคิด วิเคราะห์ หาคำตอบด้วยเหตุผล สามารถนำความรู้ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ รวมถึงวิชาอื่นๆ มาประยุกต์ร่วมกันแก้ปัญหาด้านต่างๆในชีวิตได้ซึ่งนับเป็นแนวทางขั้นต้นที่จะยกระดับนักเรียนไทย

ที่ผ่านมาคะแนนของนักเรียนไทยไม่ดีนักเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆในกลุ่มประเทศ OECD ซึ่งมีฐานะเศรษฐกิจเข้มแข็งกว่าไทยโดยเฉพาะบางประเทศในเอเชียเช่น จีนเซี่ยงไฮ้ ใช้หลักสูตรที่เป็นแนวทางเดียวกับการวัดผล PISA ทำให้นักเรียนมีคะแนนอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ผลการเรียนของนักเรียนในกลุ่มประเทศ OECD ยังมีความสัมพันธ์กับฐานะผู้ปกครองและภูมิลำเนา แตกต่างจากไทยซึ่งเด็กที่ทำคะแนนดีส่วนใหญ่อยู่โรงเรียนในเขตกรุงเทพฯ ในขณะที่จังหวัดรอบนอกเขตกรุงเทพฯทำคะแนนทดสอบไม่ดีนักเมื่อเทียบกับจังหวัดที่อยู่ห่างไกลซึ่งฐานะผู้ปกครองโดยเฉลี่ยต่ำกว่าจังหวัดที่อยู่รอบๆ กรุงเทพฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest