คุณสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหารกลุ่มอินทัช กล่าวว่า “ในนามของกลุ่มอินทัช ผมต้องขอแสดงความยินดีกับ บมจ.ไทยคมและธนาคารกสิกรไทยที่ได้รับรางวัลในฐานะที่เป็นดีลดีเด่นด้านการสื่อสารของเอเชีย-แปซิฟิก ประจำปี 2554 ในครั้งนี้ ทางกลุ่มบริษัทฯได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ บมจ.ไทยคมมาโดยตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เพื่อการเติบโตไปข้างหน้าของธุรกิจดาวเทียมอย่างต่อเนื่อง อันเป็นการสร้างฐานรากที่มั่นคงแข็งแรงของกลุ่มบริษัท บมจ.ไทยคมเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีนัยสำคัญต่อกลุ่มอินทัช เรามั่นใจว่าโครงการดาวเทียมไทยคม 6 จะเข้ามาช่วยต่อยอดความสำเร็จในธุรกิจแพร่สัญญาณโทรทัศน์ของประเทศและในภูมิภาคให้ดียิ่งๆขึ้นไป”
คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคมกล่าวว่า “โครงการดาวเทียมไทยคม 6 ใช้เงินลงทุนในโครงการทั้งสิ้น 163 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากการสนับสนุนการกู้ยืมเงินจากธนาคารกสิกรไทย ส่วนที่เหลือมาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ
จากโครงการดาวเทียมของบริษัทฯที่ผ่านมา บริษัทฯจะใช้เงินกู้จากธนาคารประเภทส่งเสริมการส่งออก หรือ ECA — Export Credit Agency ของต่างประเทศเนื่องจากธนาคารต่างชาติ โดยเฉพาะจากชาติที่ผลิตและจัดส่งดาวเทียมจะมีความคุ้นเคยกับการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการดาวเทียมซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวเป็นอย่างดี ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่วงโคจรที่บริษัทฯ กู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยได้เป็นผลสำเร็จ ภายใต้เงื่อนไขและต้นทุนที่ทัดเทียมกับเงินกู้จากต่างประเทศและยังสามารถลดระยะเวลาในการดำเนินการในการจัดหาสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ได้เป็นอย่างมาก ทางบริษัทฯต้องขอขอบคุณธนาคารกสิกรไทยที่มั่นใจในโครงการไทยคม 6 และเป็นที่น่ายินดีว่าการทำดีลโครงการกู้ยืมเงินครั้งนี้ทำให้ได้รับเลือกเป็นดีลดีเด่นด้านการสื่อสารของเอเชีย-แปซิฟิก ประจำปี 2554 ของ Project Finance Deal of the Year Award” ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมากจากความน่าสนใจของตัวโครงการและความสามารถในการจัดสินเชื่อของทางธนาคาร
“ขณะนี้ โครงการก่อสร้างดาวเทียมไทยคม 6 เป็นไปตามกำหนดที่วางไว้ คือ อยู่ในขั้นตอน Critical Design Review (CDR) ส่วนเรื่องการทำการตลาดการขายล่วงหน้า บริษัทฯสามารถปิดการขายล่วงหน้าได้กว่าร้อยละ 15 จากเป้าที่วางไว้ร้อยละ 30 ก่อนการจัดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในปีหน้า”
คุณกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย ให้ความเห็นถึงโครงการเงินกู้ยืมดังกล่าวว่า “ธนาคารกสิกรไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก บมจ. ไทยคม ให้เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินมูลค่ากว่า 136.8 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการดาวเทียมไทยคม 6 ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคอุตสาหกรรมการโทรคมนาคมของไทย และเป็นครั้งแรกที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศสามารถจัดโครงสร้างการเงินที่ตอบสนองความต้องการของบริษัทฯ ได้ทัดเทียมกับ ECA จนได้รับเลือกให้เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการดาวเทียมไทยคม 6 ความสำเร็จดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากจังหวะที่เหมาะสมที่ธนาคารฯ สามารถเลือกใช้ประโยชน์ที่ดีได้จากภาวะผันผวนของตลาดเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ และเกิดจากความเชื่อมั่นของบริษัทฯ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างทีมงานที่เปิดโอกาสให้ธนาคารฯ สามารถเข้าใจความต้องการของบริษัทฯ จนสามารถจัดโครงสร้างการเงินที่ตอบสนองความต้องการของบริษัทได้ในที่สุด โดยธนาคารฯ เชื่อว่าไทยคมจะเติบโตต่อไปในการให้ธุรกิจบริการด้านการสื่อสารในระดับภูมิภาค และความสำเร็จของบริษัทฯ ย่อมจะสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศไทยให้มีการพัฒนาก้าวไกลยิ่งขึ้น”
ดาวเทียมไทยคม 6 ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโดย บริษัท ออบิทอล ไซเอนซ์ส แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนช่องสัญญาณทั้งสิ้น 26 ทรานสพอนเดอร์ โดยแบ่งเป็นช่องสัญญาณซี-แบนด์ จำนวน 18 ทรานสพอนเดอร์ และช่องสัญญาณเค-ยูแบนด์ จำนวน 8 ทรานสพอนเดอร์ โดย บมจ.ไทยคม จะจัดส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจรที่ 78.5 องศาตะวันออก ซึ่งเป็นวงโคจรเดียวกับดาวเทียม
ไทยคม 5 ประมาณกลางปี 2556 โดยใช้จรวดส่งฟอลคอน 9 ของบริษัท สเปซ เอ็กซพลอเรชั่น เทคโนโลยีส์ คอร์ปอเรชั่น แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา