นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า “เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2555 บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจไทยมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ที่ขยายตัว ร้อยละ 9.6 ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัวร้อยละ 23.4 กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สอดคล้องกับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัว ร้อยละ 4.2 จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -1.2 ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็มีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวได้ดีร้อยละ 21.3 สอดคล้องกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ขยายตัวในระดับสูงร้อยละ 35.2 สำหรับเครื่องชี้ด้านการผลิต พบว่า มีสัญญาณฟื้นตัวเช่นกัน โดยเครื่องชี้ด้านการผลิตเบื้องต้น พบว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวเป็นบวกเดือนแรกที่ร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากที่หดตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 7 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 จากวิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2554 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ โดยในเดือนเมษายน 2555 ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 104.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 102.1ขณะที่ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องโดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 1.66 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9”
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “สำหรับ เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในด้านอุปสงค์ต่างประเทศ วัดจากมูลค่าการส่งออกพบว่า ยังคงหดตัวร้อยละ -3.7 โดยเป็นการหดตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่า มีสัญญาณที่ดีขึ้นเนื่องจากมูลค่าการส่งออกขยายตัวร้อยละ 0.5 ต่อเดือน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลักที่ดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีน กลุ่มอาเซียน แอฟริกา และเกาหลีใต้ ในขณะที่สหภาพยุโรป และญี่ปุ่นยังคงหดตัวต่อเนื่อง เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซนและปัญหาห่วงโซ่อุปทานของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่จากวิกฤตอุทกภัย ”
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวสรุปว่า “แม้ว่าดัชนีเศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2555 จะบ่งชื้ถึงการปรับตัวดีทั้งอุปสงค์ในประเทศและการผลิตที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวเช่นกัน หลังสิ้นสุดเหตุการณ์วิกฤตอุทกภัย แต่ก็ยังจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์การส่งออกที่ยังคงมีความผันผวนจากความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ที่เริ่มส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ต่างประเทศของไทย ซึ่ง สศค. จะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยครั้งต่อไปในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2555”