ม.อ. เล็งเปิดหลักสูตรร่วมประเทศเพื่อนบ้าน ผลิตบัณฑิตเจาะตลาดแรงงานอาเซียน ยกระดับมหาวิทยาลัยสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาอาเซียนตอนใต้

รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้เตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งจะก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานของประเทศสมาชิกได้อย่างเสรี และส่งผลต่อโอกาสในการหางานได้กว้างขึ้น โดยมองว่าบุคลากรบางสาขาจะเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น เช่น บุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การเงิน ขณะเดียวกันบุคลากรของไทยก็อาจจะถูกดึงตัวไปทำงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ดังนั้น นักศึกษาจะต้องเตรียมความพร้อมในระหว่างการศึกษา เพื่อรองรับโอกาสและการแข่งขันในตลาดแรงงานที่มีมากขึ้นดังกล่าว

ทั้งนี้ ม.อ.ได้เตรียมความพร้อม โดยพัฒนานักศึกษาให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการวิเคราะห์ พัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา มีความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนการมีทักษะด้านอาชีพ และการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ด้วยการเสริมทักษะด้านภาษาอังกฤษ และซื้อซอฟท์แวร์ในการสอนเสริมภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษา ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษด้วยตนเอง รวมถึงการส่งเสริมการสอนภาษาบาฮาซา ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้กันในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน ที่มีประชากรรวมกันกว่า 300 ล้านคน หรือกว่าครึ่งของประชากรในประชาคมอาเซียนเพื่อให้สามารถพูดภาษาดังกล่าวได้ ส่งผลให้นักศึกษาที่จบจาก ม.อ. มีโอกาสได้งานทำมากขึ้น

“เรายังมีแผนเพิ่มความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในมาเลเซียและสิงคโปร์ เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายนักศึกษา ด้วยการโอนย้ายหน่วยกิตระหว่างมหาวิทยาลัยเครือข่ายที่ร่วมในโครงการ โดยจะเปิดสอนหลักสูตรอาเซียนศึกษา ที่คณะวิเทศศึกษา วิทยาเขตภูเก็ต ซึ่งการเปิดหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรที่มีชื่อเสียงในอาเซียน จะช่วยในการเสริมจุดเด่น เช่น คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่วิทยาเขตปัตตานี ได้เริ่มทำหลักสูตร 2 ปริญญา ในสาขาเทคโนโลยีอาหาร ร่วมกับมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซีย โดยนักศึกษาทั้ง 2 มหาวิทยาลัยมีโอกาสเรียนร่วมกัน และจะได้รับปริญญาบัตรจากทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้นักศึกษาของ ม.อ. สามารถเข้าทำงานในมาเลเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์กล่าว

อธิการบดี ม.อ. กล่าวด้วยว่า ม.อ. ยังมีแผนเพิ่มหลักสูตรนานาชาติ เช่น หลักสูตรเทคโนโลยีอาหาร วิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยจะควบคุมมาตรฐานคุณภาพการศึกษาให้อยู่ในระดับสากล เพื่อดึงนักศึกษาต่างชาติเข้ามาศึกษาเพิ่มขึ้น โดยได้เตรียมการดูแลนักศึกษาต่างชาติ ด้วยการจัดตั้ง International Student Office ที่จะดูแลนักศึกษาต่างชาติแบบ one stop service รองรับจำนวนนักศึกษาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีนักศึกษาต่างชาติกว่า 250 คน เพื่อผลักดันให้มหาวิทยาลัยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาของอาเซียนตอนใต้

ขณะเดียวกัน ม.อ. ยังได้เปิดหลักสูตรร่วมกันระหว่างคณะในมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนต่างสาขา เช่น หลักสูตรร่วมระหว่างคณะรัฐศาสตร์และวิทยาลัยอิสลามศึกษา ซึ่งจะทำให้นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มีความรู้เรื่องของอิสลามมากขึ้น เป็นที่ยอมรับของประเทศในอาเซียนและตะวันออกกลาง โดยจะมีหลักสูตรในลักษณะดังกล่าวเกิดมากขึ้นในอนาคต