นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เวนคืนพื้นที่บริเวณปีกซ้ายด้านหน้าอาคารมิวเซียมสยาม (กระทรวงพาณิชย์เก่า) จำนวน 212 ตารางวา เพื่อก่อสร้างทางขึ้น-ลง (Entrance C) ของสถานีสนามไชยตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง สพร. จึงได้ร่วมกับ กรมศิลปากร ทำการเปิดหน้าดินบริเวณดังกล่าวเพื่อขุดสำรวจทางโบราณคดีอย่างละเอียด ก่อนจัดเก็บโบราณวัตถุและตัดยกโบราณสถานที่ฝังอยู่ใต้ดิน แล้วนำไปเก็บรักษาเพื่อเตรียมจัดแสดงนิทรรศการต่อไป ภายหลังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินส่วนต่อขยายก่อสร้างเสร็จและพร้อมเปิดใช้งานในปี 2559
“จากการขุดสำรวจพบว่า ใต้ดินบริเวณดังกล่าวมีโบราณสถานลักษณะเป็น ผนังท้องพระโรง เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์การใช้พื้นที่พบว่า เป็นที่ตั้ง พระราชวังของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศุขสวัสดี กรมหลวงอดิศรอุดมเดช จึงได้วางแผนตัดยกผนังท้องพระโรงทั้งหมดขึ้นมาเพื่อนำไปเก็บรักษาที่สำนักงานใหญ่ รฟม. เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จึงจะนำกลับมาจัดแสดงภายในสถานีรถไฟฟ้าสนามไชย ณ จุดเดิมที่ขุดพบ อีกทั้งจะนำหลักฐานสำคัญอื่นๆ ที่ขุดพบบริเวณใกล้เคียงก่อนหน้านี้มาจัดแสดงหมุนเวียนในสถานีฯ เช่นกัน อาทิ เปลือกหอยมุก กระดูกโครงม้าสภาพสมบูรณ์ เกือกม้า แปรงขนม้า ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาประเภทเครื่องเคลือบ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพื้นที่นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากรถไฟฟ้า” ผอ.สพร. กล่าว
นอกจากนี้ สพร.ยังได้ร่วมกับคณะกรรมการกรุงรัตนโกสินทร์ กรมศิลปากร และคณะทำงานควบคุม กำกับ และดูแลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) กำหนดรูปแบบทางสถาปัตยกรรมบริเวณทางเข้า-ออก C ซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารมิวเซียมสยามให้เป็นแบบเปิดโล่ง ไร้หลังคา กลมกลืนกับทัศนียภาพโดยรอบ เพื่อให้ประชาชนที่สัญจรไปมา มองเห็นสถาปัตยกรรมอันงดงามของอาคารมิวเซียมได้อย่างชัดเจน พร้อมจัดทำลิฟท์โดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย
การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 14 กิโลเมตร มีกำหนดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จประมาณปี 2559 — 2560 โดยสถานีสนามไชยเป็นชื่อที่ใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างการพิจารณาใช้ชื่อสถานีที่มีความสอดคล้องกับพื้นที่