ฟักทองพันธุ์หนึ่งที่นิยมปลูกกันมากคือ ฟักทองลายข้าวตอก เป็นฟักทองพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมที่มีรสชาติอร่อยมัน เนื้อแน่นเหนียว และลายชัด สวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาดมาก แต่เดิมฟักทองลายข้าวตอกสามารถปลูกได้แค่เพียงบางพื้นที่เช่น ในเขตอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี จะปลูกกันเฉพาะช่วงดือนเมษายนและมีผลออกเดือนกรกฎาคม เท่านั้นต้อง จึงทำให้มีผลผลิตไม่เพียงพอ ในขณะที่ความต้องการของตลาดมีอยู่ตลอดทั้งปี
บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์อันดับหนึ่งของไทย จึงเร่งพัฒนาสายพันธุ์ฟักทองลายข้าวตอกซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ต่อยอดจากพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมให้มีคุณภาพดีขึ้น กลายเป็นฟักทองลายข้าวตอกลูกผสม “ทองคำ 443” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ฟักทองลายข้าวตอกที่มีความสม่ำเสมอของสายพันธุ์ มีความแข็งแรง สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกฤดูกาล โดยสามารถให้ผลผลิตที่ดี และคุณภาพเนื้อเหนียวมันเหมือนกันทุกผล
ฉัตรตรา นารถพินิจ นักปรับปรุงพันธุ์พืช บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันฟักทองลายข้าวตอกกำลังเป็นที่นิยมของเกษตรกรและผู้บริโภคอย่างมาก เจียไต๋ใช้เวลาในการวิจัยกว่า 10 ปี จนได้ฟักทองพันธุ์ “ทองคำ 443” มีลักษณะผิวคางคกชัดเจน และลายข้าวตอกสวยงาม เนื้อในมีสีเหลืองส้มสดใส ผลหนา มีความมันและเหนียว รสชาติอร่อย ในขณะที่อายุเก็บเกี่ยวจะใช้เวลาประมาณ 75-80 วัน สามารถเจริญเติบโตได้ดี ยิ่งไปกว่านั้นยังทนได้ทุกสภาพอากาศ สามารถปลูกได้ในพื้นที่ทั่วประเทศและปลูกได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญสีของผลที่หลังเก็บเกี่ยวแล้วจะเปลี่ยนแปลงช้า และคงความสดใหม่อยู่เสมอ และทำให้ยืดอายุบนแผงได้นานขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้าและผู้บริโภ จากความแปลกใหม่และคุณภาพที่มีมากกว่าสายพันธุ์อื่น”
ลำดวน แตงไทย เกษตรกรผู้ปลูกฟักทองพันธุ์ทองคำ 443 ใน อ.โคกสำโรง จังหวัดลพบุรี “ปลูกฟักทองมานานกว่า 40 ปี โดยเป็นพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกสลับกับข้าวโพด พอได้รู้จักกับฟักทองพันธุ์ทองคำ 443 และซื้อมาทดลองปลูก พบว่าให้ผลผลิตดีกว่าเดิมมาก จึงปลูกมาตลอดกว่า 5 ปีแล้ว สำหรับฟักทองพันธุ์ทองคำ 443 จะให้ผลใหญ่ น้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัมต่อผล มีลายข้าวตอกสวยงาม รูปทรงสวย และออกผลสม่ำเสมอ ขายในราคากิโลกรัมละ 14 บาท โดยใช้พื้นปลูกทั้งหมด 10 ไร่ ทำให้มีรายได้รวมถึงสองแสนบาทต่อครั้ง และยังปลูกได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อนหรือฝนตก ก็สามารถยังเก็บผลผลิตได้ดี ส่วนการดูแลรักษาไม่ยากนัก เพราะพันธุ์นี้ทนทานต่อโรคต่างๆ ได้ดี และอยู่บนแผงได้นานจากสีผลที่ดูสดใหม่เสมอ รสชาติก็อร่อย เนื้อเหนียว แน่น สีเหลืองสวยงาม สามารถครองใจได้ทั้งเกษตรกร แม่ค้าไปจนถึงผู้ที่รับประทานได้”
ในท้องตลาดทั่วไป อาจมีฟักทองหลากหลายพันธุ์ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร แต่ก็ยังไม่ใช่ผลผลิตที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง ฟักทอง “พันธุ์ทองคำ 443” อาจกลายเป็น “พระเอก” ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ของเกษตรกร ผู้ค้า และผู้บริโภคในท้องตลาดได้ดียิ่งขึ้นสามารถเชื่อมทุกความต้องการได้อย่างลงตัว