นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงกรณีเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.6 ริกเตอร์ ซึ่งมีจุดศูนย์กลางในประเทศพม่า ว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและผลกระทบจากแผ่นดินไหว
ซึ่งในเบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย โดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อคเป็นระยะ ความรุนแรงประมาณ 4 -5 ริกเตอร์ ปภ.จึงได้สั่งกำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เตรียมวัสดุอุปกรณ์และเครื่องจักรกลให้พร้อมใช้งาน ทั้งนี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดทำแผนแม่บทและแผนเผชิญเหตุเฉพาะพื้นที่กรณีแผ่นดินไหวครอบคลุม 62 จังหวัด พร้อมจัดอบรมและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้การรับมือแผ่นดินไหวแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงฝึกซ้อมแผนอพยพกรณีเกิดแผ่นดินไหวอยู่เสมอ
ตลอดจนประสานจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารให้เป็นไปตามกฎกระทรวงและสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงให้มีการก่อสร้างอาคารตามมาตรฐานที่กำหนด
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า รัฐบาลห่วงผลกระทบจากแผ่นดินไหว ได้สั่งการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอาคารเก่าและโบราณสถานที่มีความเก่าแก่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว รวมถึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตเตรียมพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานของจังหวัด อย่างไรก็ตาม
ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมพร้อมและกำหนดมาตรการรับมือแผ่นดินไหวที่มีมาตรฐานตามหลักสากลไว้แล้ว