สำหรับน้องๆเยาวชนคนเก่งที่ได้คว้ารางวัลยอดเยี่ยมในแต่ละช่วงอายุ มีดังนี้
กลุ่ม 1 (อ.1 – ป.3) ด.ญ.พิมพวฎี จันทคล้าย หรือ พิม อายุ 5 ขวบชั้นอนุบาล 2 จากร.ร.ศิลปะวินเซ็นต์แกลอรี่ เล่าว่า “หนูชอบวาดรูปค่ะ คุณครูถามว่าถ้านึกถึงประเทศไทยนึกถึงอะไร หนูคิดว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ หนูนึกถึงตอนที่พ่อกับแม่พาหนูไปวัดค่ะ มีพระ องค์โตๆให้เรากราบไหว้บูชา คำสอนให้ทุกคนเป็นคนดี หนูจึงวาดเป็นรูปพระมีเด็กอยู่รายล้อม ใช้สีขาว สีฟ้า และน้ำเงินเพราะอยากให้ดูสงบ สบาย องค์พระอยู่ตรงกลางภาพให้ความรู้สึกสง่า ส่วนเด็กๆด้านล่างเป็นตัวแทนเด็กไทยที่ใกล้ชิดศาสนา เป็นสีสันประเทศไทยที่สดใสอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักและศรัทธาในพระพุทธศาสนาค่ะ”
กลุ่ม 2 (ป.4 – ป.6) ด.ญ.พรรณพัชร คีรีเดช หรือ น้องตูน อายุ 11 ขวบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จาก ร.ร.เผยอิง บอกว่า “หนูสนใจศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ชอบวาดรูปในช่วงที่มีเวลาว่างค่ะ สำหรับรูปที่ได้รับรางวัล ใช้เวลาวาดประมาณ 1 เดือนค่ะ หนูคิดว่าสีสันของประเทศไทยอยู่ที่มหรสพและศิลปวัฒนธรรมไทยค่ะ หนูจึงถ่ายทอดออกมาเป็นภาพ หนังใหญ่ มโนราห์ ลิเก และการละเล่นที่หลากหลายที่สะท้อนความรักสนุกของคนไทย หนูจึงใช้สีสันสดใสของสีแดง สีทอง สีสดๆเพื่อบ่งบอกถึงความสุข องค์ประกอบภาพดูตื่นเต้น ทำให้คนที่ดูภาพนี้มีอารมณ์สนุกสนานไปด้วยค่ะ หนูอยากฝากให้เพื่อนๆเด้กรุ่นใหม่ให้สนใจและหาโอกาสไปดูศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นของไทยที่นับวันจะหาดูได้ยากและสูญหายไป ช่วยกันอนุรักษ์สืบสานต่อไปในอนาคตค่ะ”
กลุ่ม 3 (ม.1 – ม.3) ด.ช.ศิริโรจน์ โคตรรวงษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร.ร.ศรีสงครามวิทยา เล่าว่า“สีสันประเทศไทยของผมทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศของความสนุก ผลจึงเลือกถ่ายทอดออกมาเป็นงานวัด ผมเลือกวาดในมุมสูงเหมือนถ่ายภาพด้วยเลนส์วายซึ่งเป็นมุมกว้าง เลือกใช้สีพาสเทลอ่อนหวาน ดูอบอุ่นและนุ่มนวล เจดีย์ที่บิดเบี้ยว และตัวการละเล่นที่หน้าตาขึงขังทำให้ภาพดูแปลกตา เทศกาลงานวัดที่เต็มไปด้วยผู้คนและความมีชีวิตชีวา การพบปะพูดคุยของผู้คนที่มาวัด ซึ่งเป็นแหล่งรวมของสังคมไทย ภาพจึงดูมีมิติและการเคลื่อนไหว สะท้อนความเป็นสีสันของประเทศไทยได้ลงตัวครับ”
สีสันของประเทศไทยมีมากมายรอบตัว หากแต่เด็กไทยต้องช่วยกันดำรงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยเพื่อให้คงอยู่คู่คนไทยจากรุ่นสุ่รุ่น