กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประกาศเดินหน้าผลักดันธุรกิจส่งออกเต็มสูบ เปิดตัว “โครงการ PM Award 2014” เชิญผู้ส่งออกไทยและบริษัทข้ามชาติ ร่วมตีตราคุณภาพมาตรฐานสินค้าไทยขั้นสูงเพื่อก้าวสู่ตลาดโลก

พุธ ๐๒ เมษายน ๒๐๑๔ ๑๓:๕๖
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประกาศความพร้อมผลักดันธุรกิจส่งออกของไทย ปี 2557 ทุกรูปแบบ หลังคาดการณ์ธุรกิจส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวถึงร้อยละ 3.5-3.6 คาดเป้าหมายส่งออกปีนี้เติบโตได้ถึงร้อยละ 5 พร้อมเดินหน้าเชิญชวนผู้ส่งออกไทยและบริษัทข้ามชาติเข้าร่วมโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจดีเด่นปี 2557 (PM Award 2014) เพื่อช่วยยกระดับธุรกิจส่งออกไทยให้มีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ และตอกย้ำความมั่นใจแก่ธุรกิจส่งออกไทยด้วยการส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยผลักดันยอดการส่งออกเต็มสูบทั้งการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ การโรดโชว์ร่วมกับผู้ประกอบการในต่างประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์การออกแบบ รวมทั้งจัดอบรมสัมมนาตลอดปี

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “การส่งออกมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยมาโดยตลอด แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกซบเซา ประเทศไทยก็ยังคงขับเคลื่อนการค้าการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าที่จะขยายการส่งออกอยู่ที่ 5% โดยในเดือนมกราคม 2557 มีมูลค่าการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ยอดการส่งออกยังขยายตัวอยู่ในตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดสหภาพยุโรป ขยายตัว 4.6% ตลาดญี่ปุ่นขยายตัว 1.8% และตลาดสหรัฐอเมริกาขยายตัว 0.4%”

“กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับ ดูแล และพัฒนาด้านการส่งออกของไทย จึงจัดให้มีการมอบรางวัล Prime Minister’s Business Enterprise Award หรือ PM Award จำนวน 7 ประเภทรางวัล รวม 31 รางวัล ซึ่งเป็นรางวัลที่ดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับกลลยุทธ์การส่งเสริมและพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ประเทศในฐานะประเทศผู้ส่งออกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซี่ยน รางวัล PM Award จะเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญในการตอกย้ำความเชื่อมั่นและเป็นเครื่องการันตีคุณภาพมาตรฐานสินค้าและบริการของไทยอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตด้วย”

“ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในแต่ละประเภทจะได้รับสิทธิประโยชน์จากทางกรมฯ ได้แก่ 1) ได้รับโล่รางวัลและเกียรติบัตรจากนายกรัฐมนตรี 2) ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับทางกรมฯ อาทิ การได้รับสิทธิ์นำสินค้ามาจัดแสดงในงานนิทรรศการของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทั้งในและต่างประเทศ 3) การได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการจัดกิจกรรมต่างๆ ในลำดับแรก เช่นการจัด In-store Promotion ร่วมกับห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ คณะผู้แทนการค้าระดับสูงเยือนต่างประเทศ และการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ 4) การได้รับสิทธิ์สนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้ส่งออกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในรูปแบบการเข้าร่วมสัมมนาและการฝึกอบรมเชิงลึก 5) การได้รับสิทธิ์ให้ใช้ตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark 6) การได้รับข้อมูลข่าวสารทางการตลาดจากกรมเป็นประจำทาง mobile application “DITP Connect” 7) การได้รับสิทธิ์เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ได้รับรางวัล “PM Award Membership List” ซึ่งต่อไปกรมจะจัดกิจกรรมการตลาดให้เป็นพิเศษเฉพาะสมาชิกกลุ่ม หรือจัดโซนพิเศษให้ในกิจกรรมที่กรมฯ จัด เป็นต้น 8) ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์ในฐานะผู้ได้รับรางวัลในสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ หนังสือ PM’s Award Directory นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 9) การได้รับสิทธ์ใช้ตราสัญลักษณ์ PM Award เพื่อส่งเสริมการขาย ” นางนันทวัลย์ กล่าว

ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า“แนวทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพและความได้เปรียบด้านการแข่งขันสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกไทยทั้งในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกก็คือ การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ส่งออกสินค้าและบริการที่มีผลงานดีเด่น ให้มีการริเริ่มและพยายามบุกเบิกตลาดต่างประเทศ พัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างผลิตหรือการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้ชื่อทางการค้าของตนเอง สินค้าที่มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองจนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ภายใต้การดำเนินโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจดีเด่น (Prime Minister’s Business Enterprise Award 2014: PM Award 2014) ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่ช่วยการันตีถึงศักยภาพของธุรกิจและสามารถช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสร้างกระแสบริโภคนิยมสินค้าไทยให้เกิดขึ้นในตลาดโลก ผ่านสินค้าและบริการไทยชั้นนำที่ได้รับรางวัลคุณภาพระดับประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนอีกด้วย”

“โดยในปีนี้ โครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๗ (Prime Minister’s Business Enterprise Award 2014 : PM Award 2014) จะแบ่งออกเป็น 7 ประเภทรางวัล คือ 1) รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) 2) รางวัลสินค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Green Innovation) 3) รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) 4) รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design Excellence Award :DEmark) 5) รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) 6) รางวัลสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกและคุณภาพยอดเยี่ยม (Best OTOP Export Recognition) และ 7) รางวัลผู้ประกอบธุรกิจเกิดใหม่ยอดเยี่ยม (Best Business Startup)” (รายละเอียดตามเอกสารแนบ)

“โครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจดีเด่น (Prime Minister’s Business Enterprise Award : PM Award) ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จสูงสุดสำหรับผู้ส่งออกสินค้าและบริการประเภทต่างๆ ซึ่งจากผลการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปี 2556 รวมระยะเวลา 21ปี มีบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลดังกล่าวแล้วถึง 414 บริษัท ส่งผลให้เกิดกระแสการยอมรับแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการจากประเทศไทยให้กับผู้นำเข้าและผู้ซื้อจากต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้รางวัลดังกล่าวยังจุดประกายให้ผู้ส่งออกที่ยังไม่ได้รับรางวัล มีความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้รับรางวัลมาเป็นเครื่องหมายการันตีต่อไป” ม.ล. คฑาทอง กล่าว

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงขอเชิญชวนให้ผู้ส่งออกไทยและบริษัทข้ามชาติสมัครเข้าร่วมโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๗ (Prime Minister’s Business Enterprise Award 2014 : PM Award 2014) ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เมษายน 2557 โดยสามารถดูรายละเอียดของรางวัลแต่ละประเภทและสมัครออนไลน์ได้ที่ www.pmenterpriseaward.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๕ อัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ต้องรู้ 2567
๑๕:๑๐ อมาโด้ (amado) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอลลาเจน คว้า 2 รางวัล จากเวทีธุรกิจ 2024 Thailand's Most Admired Brand (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4) และรางวัล Brand Maker Award
๑๕:๒๒ ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี เติมฝันเด็กไฟ-ฟ้า ผ่านโชว์ Cover Dance คว้า 2 รางวัล จุดประกายศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่สำคัญ
๑๕:๑๒ วว. / สสว. นำ วทน. พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน SMEs จัดอบรมพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยบรรจุภัณฑ์ ฟรี
๑๓:๕๐ เถ้าแก่น้อย ครองใจผู้บริโภคคว้า 'แบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบที่สุด' จากผลสำรวจ Thailand's Most Admired Brand
๑๓:๓๘ Bose-Backed สมาร์ทวอทช์แบรนด์ Noise เปิดตัวในไทยบน Shopee และ Lazada
๑๒:๑๗ TIDLOR ปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ มูลค่า 4,000 ลบ. ขายหมดเกลี้ยง ขอบคุณนักลงทุนที่ร่วมสร้างผลตอบแทน พร้อมกับสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไปด้วยกัน
๑๒:๔๗ แอล.พี.เอ็น. เปิดโมเดลซัพพอร์ทคนอยากมีบ้าน เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 3 ล้าน ผุดแคมเปญ 'LPN ดูแลให้' และ 'LPN
๑๒:๓๗ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 'Redmi Note 13 Series' ให้คุณกดบัตรคอนเสิร์ต '2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] in BANGKOK Presented by Xiaomi' รอบ
๑๒:๐๘ กรมโยธาฯ ใช้มาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้างงานที่ล่าช้าสร้างความเดือดร้อนประชาชน