นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556 – 30 กันยายน 2557) จากรายงานรายได้ที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจนำส่งคลังหลังหักการขอถอนคืนจากระบบ GFMIS เป็นรายได้สุทธิ จำนวน 2,108,499.24 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการรายได้สุทธิ จำนวน 275,500.76 บาท ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ซึ่งประมาณการไว้ว่าจะมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 2,384,000 ล้านบาท โดยรายได้ ส่วนใหญ่เป็น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประมาณ 5.35 แสนล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม ประมาณ 4.46 แสนล้านบาท และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2.19 แสนล้านบาท
สำหรับด้านรายจ่าย ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 2557 ภาพรวมจำนวน 2,246,308.44 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.96 สูงกว่าปีก่อน จำนวน 74,849.39 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.45 ด้านรายจ่ายลงทุน เบิกจ่ายได้จำนวน 284,049.59 ล้านบาท หรือร้อยละ 65.82 สูงกว่าปีก่อน จำนวน 7,475.12 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.70 ในส่วนของงบไทยเข้มแข็ง 2555 เบิกจ่ายจำนวน 2,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เบิกจ่ายจำนวน 6,747 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีนี้มีวิกฤตทางการเมืองทำให้ส่วนราชการไม่สามารถปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานตามปกติได้ประมาณ 4 เดือน แต่ทางกรมบัญชีกลางได้มีมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินโดยการผ่อนคลายกฎระเบียบด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสามารถจ่ายเงินได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจสูงขึ้นกว่าปีก่อน
ในส่วนของเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี พ.ศ. 2548 - 2556 ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 เบิกจ่ายแล้วจำนวน 213,684.25 ล้านบาท หรือร้อยละ 70.68 ของวงเงินที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี จำนวน 302,339.69 ล้านบาท คงเหลือ 72,279.07 ล้านบาท มีการขอขยายเวลาการเบิกจ่ายเงินจำนวนนี้ออกไปซึ่งเป็นเงินที่มีหนี้ผูกพัน จำนวน 33,378.78 ล้านบาท และไม่มีหนี้ผูกพัน 38,900.29 ล้านบาท และมีการขอกันเงินงบประมาณปี 2557 ผ่านระบบ GFMIS รวมจำนวน 273,597.10 ล้านบาท ซึ่งเป็นกรณีมีหนี้ผูกพัน จำนวน 112,096.05 ล้านบาท และกรณีไม่มีหนี้ จำนวน 161,500.65 ล้านบาท ซึ่งกรมบัญชีกลางจะพิจารณาเหตุผลความจำเป็นในการอนุมัติให้กันและขยายเวลาเบิกจ่ายเงินกรณีไม่มีหนี้ต่อไป
นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้เบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณ จำนวน 354,555 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.73 ของวงเงินรวม 462,102 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ผ่านเงินทุนหมุนเวียน เช่น กองทุนช่วยเหลือเกษตรกร กองทุนประกันสังคม และเงินทุนหมุนเวียนค่าเรื่องจักรกลของกรมทางหลวง เป็นต้น
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเกี่ยวกับการสร้างงานที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้หน่วยงานเร่งรัดทำสัญญาจ้างงบรายจ่ายลงทุนปี 2557 ที่ค้างอยู่จำนวน 147,050 ล้านบาท กรมบัญชีกลางได้ดึงข้อมูลจากระบบพบว่า มีส่วนราชการยืนยันการดำเนินการโครงการแล้ว จำนวน 132,160 ล้านบาท คงเหลืออีก 14,890 ล้านบาท คาดว่าหน่วยงานจะยืนยันการดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด
นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวต่อว่า ในส่วนของฐานะการคลังได้ประมวลผลจากระบบ GFMIS ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 จำนวน 495,723.96 ล้านบาท ยืนยันว่าฐานะการคลังมั่นคงและเพียงพอกับการบริหารอย่างแน่นอน
“ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 กรมบัญชีกลางจะเร่งดำเนินการและสานต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลทั้งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ เพื่อให้เกิดการจ้างงานและมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมต่อไป” นายมนัส กล่าว