นายปีติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับเงินประกันสภาพคล่อง ถ้าจัดเก็บที่ 1% จะเป็นเงินจำนวน 6,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งกระจายอยู่ตามสหกรณ์ออมทรัพย์ ยังไม่รวมเงินทุนสำรองตามมาตรา 60 ที่สหกรณ์จะต้องสำรองไว้ 10% โดยเงินสำรองทั้งหมดทางสหกรณ์ดำเนินการจัดเก็บเอง ซึ่งแต่ละสหกรณ์ก็มีวิธีการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ไม่ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บที่ชัดเจน ส่วนการพิจารณาว่าจะให้ฝ่ายใดเป็นผู้บริหารกองทุนนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา เมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดสภาพคล่องต่อสหกรณ์ทั้งระบบ”
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งดำเนินการ เพื่อเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในเดือนมกราคม 2558 ต่อไป