ปภ.แนะวิธีปฏิบัติกรณีประสบอุบัติเหตุอย่างถูกวิธี ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

พุธ ๒๔ ธันวาคม ๒๐๑๔ ๑๐:๒๐
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เรียนรู้วิธีปฏิบัติกรณีประสบอุบัติเหตุ โดยตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินหรือทำสัญลักษณ์เตือนให้รถคันอื่นทราบว่า เกิดอุบัติเหตุ หากมีผู้บาดเจ็บให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมโทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อสามารถตกลงกับคู่กรณีได้แล้วให้รีบเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ จะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า บ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนในลักษณะที่ไม่รุนแรง แต่การไม่รู้วิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้อง ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ส่งผลให้ผู้ประสบเหตุได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้น เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ขอแนะวิธีปฏิบัติกรณีประสบอุบัติเหตุอย่างถูกวิธี ดังนี้ ตั้งสติไม่ตื่นตระหนก หากไม่บาดเจ็บมากนักให้รีบออกจากรถ พร้อมประเมินสถานการณ์และความรุนแรงของอุบัติเหตุ เพื่อจะได้แก้ไขเหตุฉุกเฉินได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน โดยเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินนำกิ่งไม้หรือกรวยสีสะท้อนแสงมาวางให้ห่างจากจุดเกิดเหตุในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร โบกธงหรือทำสัญลักษณ์อื่นๆ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ในระยะไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เพื่อเตือนให้รถคันอื่นทราบว่าเกิดอุบัติเหตุ จะได้เพิ่มความระมัดระวังและเปลี่ยนช่องทางจราจรได้ทัน หากมีผู้บาดเจ็บ ให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่หากมีผู้บาดเจ็บสาหัส เช่น หมดสติกระดูกหัก เป็นต้น ห้ามเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นพิการได้ พร้อมโทรศัพท์แจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทางหมายเลข 1669 เพื่อช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ และนำส่งสถานพยาบาลที่อยู่บริเวณใกล้เคียง โทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบรายละเอียดของอุบัติเหตุและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ประกันภัยเพื่อดำเนินการตรวจสอบความเสียหาย ของรถ สำหรับใช้ดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหาย รีบเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ เมื่อสามารถตกลงกับคู่กรณีได้แล้ว เพื่อมิให้รถกีดขวางช่องทางจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน กรณีประสบอุบัติเหตุและมีสายไฟฟ้าขาดพาดตัวรถ ห้ามออกจากรถจนกว่าจะแน่ใจว่าตัดกระแสไฟฟ้าแล้ว แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินและจำเป็นต้องออกจากรถ ให้ใช้วิธีกระโดดลอยตัวลงจากรถ โดยไม่ให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสัมผัสถูกพื้นและตัวรถพร้อมกัน เมื่อเท้าแตะพื้นแล้วให้ ก้าวเท้าช่วงสั้นๆ

พยายามออกห่างจากตัวรถให้มากที่สุด ห้ามกลับเข้าไปที่รถจนกว่าจะตัดกระแสไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว กรณีมีน้ำมันรั่วไหลหรือได้กลิ่นก๊าซ ให้รีบดับเครื่องยนต์และออกจากรถ โดยอยู่ให้ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุทางด้านเหนือลมในระยะไม่ต่ำกว่า 10 เมตร รวมถึงห้ามกระทำการใดๆ ที่ทำให้เกิดประกายไฟ เช่น สตาร์ทเครื่องยนต์ สูบบุหรี่ เป็นต้น

เพราะจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ กรณีเกิดเพลิงไหม้รถ ให้รีบออกห่างจากรถมากที่สุด เพื่อป้องกันแรงระเบิด ทำให้เกิดอันตรายได้ จากนั้นให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิง ทั้งนี้ การเรียนรู้วิธีปฏิบัติกรณีประสบอุบัติเหตุ จะช่วยให้สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้อย่างถูกต้องและทันท่วงทีช่วยลดความรุนแรงและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้

0-2243-0674 0-2243-2200

www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น