?
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพและทักษะเชิงธุรกิจแก่เยาวชนไทย เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาในภูมิภาคเอเชีย ร่วมแสดงความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะเชิงธุรกิจ เพื่อก้าวสู่โลกธุรกิจในอนาคตในโครงการประกวดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก “ASIA VENTURE CHALLENGE” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 โดยล่าสุดได้คัดสุดยอด 12 ทีมสุดท้ายมาประชันไอเดียธุรกิจรอบชิงชนะเลิศ ภายใต้แนวคิด “Be Different” ซึ่งจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม 2558 ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ โดยทีมที่ชนะใจกรรมการ จะเป็นตัวแทนไปแข่งขันชิงสุดยอดแผนธุรกิจระดับโลกที่มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อชิงทุนมูลค่ากว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ และได้รับเกียรติลั่นระฆัง เปิดตลาดหุ้น NASDAG ที่นิวยอร์ก
คุณชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดโครงการประกวดแผนธุรกิจ “ASIA VENTURE CHALLENGE” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำต่างๆ ในประเทศไทย นิสิตนักศึกษาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจในครั้งนี้จะได้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีค่าต่อชีวิตในวันข้างหน้าอย่างมาก ทั้งการเสริมสร้างทักษะในเรื่องการเขียนแผนธุรกิจ และการนำเสนอแผนธุรกิจอย่างมืออาชีพ และโอกาสที่ได้ประชันความรู้ความสามารถกับนักศึกษาจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนิสิตนักศึกษาเองในการเตรียมความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์และศักยภาพในอนาคต โดยทีมที่เข้าแข่งขันต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการ ซึ่งเปรียบเสมือน “ผู้ลงทุน” (Investor) หรือ “ผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมทุน” (Venture Capitalist) โดยจัดทำแผนธุรกิจของผลิตภัณฑ์และบริการ ตั้งแต่การวิเคราะห์วิจัย ศึกษาตลาด ด้วยแนวคิดการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เป็นไปได้จริง โดยผู้แข่งขันรวมทั้งผู้ชมที่ได้ติดตามคำวิจารณ์จากคณะกรรมการก็จะได้รับมุมมองใหม่ๆ สามารถเกิดการต่อยอดทางความคิดได้อีกด้วย”
ศ. ดร. ศิริลักษณ์ โรจนกิจอำนวย คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “เรามั่นใจว่าโครงการประกวดแผนธุรกิจ ASIA VENTURE CHALLENGE จะสร้างนักรบเศรษฐกิจรุ่นใหม่ที่เป็นต้นแบบของ SMEs ไทยได้ เนื่องจากเป็นการบ่มเพาะนักศึกษาให้พัฒนาศักยภาพด้านวิชาการควบคู่ไปกับความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตเชิงพาณิชย์ที่ตรงกับความต้องการของตลาดภายในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐในการสร้างผู้ประกอบการใหม่ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ?และเป็นแนวทางการผลักดันให้เกิดความร่วมมือ ระบบเครือข่ายความเชื่อมโยงระหว่าง สถาบันการศึกษา ?ผู้ประกอบการ ?นักลงทุนและหน่วยงานรัฐ อย่างต่อเนื่องต่อไป”
“สำหรับการแข่งขันในปีนี้ มีทีมที่ผ่านการคัดเลือก จากนักศึกษาปริญญาโทโครงการบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ทั้งหมด 12 ทีม จากจำนวน 9 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และอินเดีย โดยคณะกรรมการตัดสินจะมาจากผู้ทรงเกียรติและผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย นักธุรกิจชั้นนำจากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงตัวแทนผู้ลงทุนที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นตัวแทนพิจารณาคัดเลือกและตัดสินการแข่งขันสุดยอดแผนธุรกิจระดับเอเชียในครั้งนี้ โดยทีมที่ได้รับการคัดเลือกและเข้ามาแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะมีความรู้ความสามารถแล้ว คุณสมบัติเด่นที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรมีคือ “ต้องคิดต่าง” (Be Different) ด้วยการสร้างความแตกต่างของธุรกิจ อาทิ การบริหารจัดการที่เป็นระบบ มีผลิตภัณฑ์ที่ดี มีความเข้าใจผู้บริโภค มีช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงง่าย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นรวดเร็ว ธุรกิจในหนึ่งรุ่นคนไม่อาจอยู่ได้ยืนนานอย่างในอดีต การปรับตัวและพัฒนาสู่สิ่งใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างท้าทายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง”
คุณชนิตร กล่าวต่อว่า “ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันประกวดแข่งขันแผนธุรกิจในระดับภูมิภาคอาเซียนซึ่งรวบรวมมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียไว้บนเวทีเดียวกันนั้นเปรียบเสมือนการนำนักศึกษาระดับหัวกระทิทั่วทั้งเอเชียมาแสดงความรู้ความสามารถ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาสู่ผู้ประกอบการไทยในวงกว้างได้ในระยะยาว ดังนั้น การประกวดแข่งขันแผนธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษจึงไม่ใช่ประเด็นปัญหาอีกแล้ว ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรฝึกเขียนแผนธุรกิจที่เป็นสากล ซึ่งแผนธุรกิจที่ดีจะช่วยตอบคำถามต่างๆ ให้กับนักลงทุนหรือแหล่งลงทุนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่จะต้องถามตอบได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะในอนาคตผู้ประกอบการไทยจะต้องเข้าไปแข่งขันธุรกิจในระดับโลกผ่านเวทีอาเซียน”
โครงการประกวดแผนธุรกิจ “ASIA VENTURE CHALLENGE 2015” ภายใต้แนวคิด “Be Different” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม 2558 โดยกำหนดให้มีการแข่งแข่ง 6 รอบ ประกอบด้วย 1. รอบ 60-Second Elevator Pitch 2. รอบ Grant Thornton New Venture Showcase การจัดแสดงแผนธุรกิจ 3. รอบ Division Round คัดเลือกทีมที่ชนะแต่ละสายเข้ารอบชิงชนะเลิศ 4. รอบ Playoff round ทีมรองชนะเลิศของแต่ละสายในรอบแรกมาแข่งขันกัน 5. รอบ Challenge round คัดเลือกเหลือ 4 ทีมสุดท้าย 6. Final Round รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะให้เวลานำเสนอแผน 45 นาที พร้อมการถามสดจากคณะกรรมการ สำหรับผู้สนใจทั้งนิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ นักลงทุน และประชาชนทั่วไปเข้าชมการแข่งขัน “ASIA VENTURE CHALLENGE 2015” สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โทรศัพท์ 02-222-1331 หรือที่เว็บไซด์ www.asiaventurechallenge.org
อนึ่ง โครงการประกวดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย “ASIA VENTURE CHALLENGE 2015” ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บมจ. ปตท (PTT), บริษัท แกรนท์ ธอนตัน จำกัด, บริษัท บอดี้ โกลฟ บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), แอร์เอเชีย, กรุงศรี ไอแม็กซ์, ยูนิลีเวอร์, ฟูจิ ซีร็อกซ์, ทรู คอร์เปอเรชั่น และร้านอาหารสีฟ้า