หอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย เปิดตัวคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เดินหน้าส่งเสริมการค้าการลงทุนฉลอง 65 ปีความสัมพันธ์

จันทร์ ๐๒ มีนาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๕๙
หอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย ในอุปถัมภ์ของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ตอกย้ำสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งและยาวนานครบรอบ 65 ปี เดินหน้าจับคู่ธุรกิจ ส่งเสริมการค้าการลงทุน ชูยุทธศาสตร์ Assist – Access – Act ทลายกำแพงกั้นการค้าระหว่างประเทศ คาดกระตุ้นผลักดันให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2558

เมื่อเร็วๆ นี้ หอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย จัดงานแถลงข่าวเนื่องในวาระครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยได้แถลงนโยบายประจำปี 2558 พร้อมทั้งแนะนำกรรมการบริหารชุดใหม่ของหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย โดยได้รับเกียรติจาก มร.ลุตฟี ราอุฟ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย นายประจวบ ไชยสาส์น ที่ปรึกษาหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย และนางซาราสวาตี แอลลี ซันโตโซ ประธานหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย เป็นผู้แถลง

มร.ลุตฟี ราอุฟ กล่าวว่า “ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซียได้ดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตมาเป็นเวลายาวนานนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 ไทยและอินโดนีเซียยังเป็นผู้ริเริ่มสำคัญในการรวมกลุ่มในภูมิภาคอย่างการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ASEAN ในปี พ.ศ. 2510 ปัจจุบันอาเซียนได้กลายเป็นภาคส่วนที่สำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาโลก การรวมตัวกันทางเศรษฐกิจของอาเซียนในชื่อ ‘ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน’ หรือ เออีซี ในปลายปีนี้ จะเป็นบททดสอบอันสำคัญของความพยายามของภูมิภาคนี้”

“หลายปีที่ผ่านมา สถิติได้แสดงให้เห็นว่าการค้าการลงทุนระหว่างไทย-อินโดนีเซียเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการลงทุนของอินโดนีเซียในไทยเพิ่มขึ้นจาก 1,500 ล้านบาทในปี 2556 เป็น 21,700 ล้านบาทในปี 2557 ในขณะที่มูลค่าการลงทุนของไทยในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นจาก 3,500 ล้านบาทในปี 2556 เป็น 10,400 ล้านบาทในปี 2557 ทั้งนี้ ในปัจจุบันอินโดนีเซียให้ความสำคัญต่อการลงทุนจากต่างชาติใน 4 ภาคธุรกิจ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจทางทะเล อุตสาหกรรมการผลิต และการท่องเที่ยว” เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียเปิดเผยและเสริมว่า

“ผมมีความรู้สึกยินดียิ่งที่หอการค้าฯ เล็งเห็นความสำคัญของความสัมพันธ์และประโยชน์ที่ทั้งสองประเทศจะได้รับในเรื่องการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และด้านวัฒนธรรม กิจกรรมของหอการค้าฯ จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียยิ่งๆ ขึ้นไป และนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ร่วมที่เราจะได้รับร่วมกัน ความสัมพันธ์ที่ว่านี้ไม่ใช่เพียงความสัมพันธ์แบบรัฐต่อรัฐ หรือ G to G แต่หมายรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจ หรือ B to B และความสัมพันธ์ระดับประชาชน หรือ P to P ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสร้างโอกาสในการเข้าสู่เออีซี”

นายประจวบ ไชยสาส์น เปิดเผยว่า “หอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย ได้ดำเนินยุทธศาสตร์ Assist – Access – Act เพื่อทลายกำแพงกั้นทางการค้าระหว่างประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทย โดยให้การสนับสนุนด้านข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่สุดในด้านการลงทุน ระเบียบ กฎหมาย และวิธีปฏิบัติ และเพื่อเป็นตัวกลางระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในปัจจุบันหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย มีความพร้อมที่จะนำเสนอกิจกรรมให้กับพันธมิตรและสมาชิกเพื่อเป็นตัวกลางนำไปสู่โอกาสใน ค.ศ. 2015 ปีแห่งการลงทุนอินโดนีเซีย หรือ ‘2015 Go Invest Indonesia’ ”

ประธานหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย นางซาราสวาตี แอลลี ซันโตโซ กล่าวว่า “กิจกรรมสำคัญที่จะจัดขึ้นจัดโดยหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย ในปี 2558 ประกอบด้วย การสัมมนาธุรกิจกับหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย ในเดือนมีนาคม การจับคู่ธุรกิจของหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย โดยจะพานักลงทุนไทยไปเยี่ยมเยือนส่วนราชการและธุรกิจสำคัญของอินโดนีเซียในเดือนเมษายน การแข่งขันกอล์ฟกระชับมิตรอินโดนีเซีย-ไทย ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน นิทรรศการธุรกิจ ในช่วงปลายไตรมาสที่ 3-4 ของปี และ AEC New Gen Campในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2558”

หอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2556 และดำเนินตามเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างไทย-อินโดนีเซีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการดำเนินการจับคู่ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ จะเป็นการดำเนินงานโดยคณะกรรมการชุดใหม่ โดยการนำของประธาน นางซาราสวาตี แอลลี ซันโตโซ นายเฟอร์รี่ คาโยโน่ รองประธาน และ ดร. สุกิต เอื้อมหเจริญ เลขาธิการ

“อินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีประชากรราว 250 ล้านคนหรือเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดอาเซียน ประชาชนที่มีฐานะดีและมีกำลังซื้อสูงมีถึงประมาณร้อยละ 10-15 ของประชากรทั้งหมด อินโดนีเซียยังเป็นประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูง จึงมีความต้องการสินค้า โดยเฉพาะสินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภค โดยสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดอินโดนีเซีย ได้แก่ ข้าว น้ำตาล ผลไม้ไทย รวมทั้งสินค้าอาหารอื่นๆทุกประเภท ในส่วนของธุรกิจบริการของไทยที่นับว่ามีศักยภาพและมีโอกาสในตลาดอินโดนีเซียได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว เราอยากเชิญชวนนักธุรกิจชาวไทยไปลงทุนในอินโดนีเซีย” ดร.สุกิต กล่าวเสริม

ปีแห่งการลงทุนอินโดนีเซีย ภายใต้คอนเซปต์ “2015 Go Invest Indonesia” จะเป็นประตูเพื่อเปิดสู่โอกาสในการลงทุน โดยมีหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย เป็นหัวหอกสำคัญ ตลอดจนเป็นสื่อกลางให้กับนักลงทุน โดยดำเนินงานเพื่อให้ธุรกรรมต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย ทั้งในด้านการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทโรงผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมเกษตร สาธารณสุข ลอจิสติกส์ และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการค้าและการบริการ เช่น ธุรกิจประเภทอาหารแปรรูป การส่งต่อเทคโนโลยี และการขยายสาขากิจการ ในด้านการกีฬาและค่ายนักธุรกิจ

และด้านการท่องเที่ยวทั้งเชิงวัฒนธรรมและเชิงประวัติศาสตร์

ผู้ใดสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการสมัครเป็นสมาชิกและการเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่Mr Arif Suyoko; Economic Attache - Embassy of The Republic of Indonesia at Mobile: +66 (0) 8 6076 4860 or Email: [email protected], Dr Sukit Uarmahacharoen; Secretary General, Indonesia Thai Chamber of Commerce at Mobile: +66(0)9 1992 4491 or Email: [email protected] and Mr Eky Kurniawan; Board of Director, Indonesia Thai Chamber of Commerce at Mobile: +66(0)9 0404 5856 or Email: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา