มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ความสำเร็จของเราล้วนเกิดขึ้นจากกระบวนการในระยะยาว และการดำเนินการด้วยความรับผิดชอบ ไม่เฉพาะแต่ในด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยเช่นกัน
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของสังคมไทย ไม่ว่าประเทศไทยจะเผชิญกับวิกฤตและสถานการณ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนเพียงใดก็ตาม เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและชุมชน ทั้งในด้านวัฒนธรรม การตอบแทนสังคม และการพัฒนาคน หนึ่งในนั้นคือ กิจกรรม “อมารี วอเตอร์เกท &บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย วิ่งเที่ยงคืนการกุศล” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนให้แก่องค์กรการกุศลในการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสในประเทศ”
“บ้านแกร์ด้า เป็นบ้านพักสำหรับเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อเอชไอวีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้การดูแลในแบบครอบครัวพร้อมบ้านพักเป็นสัดส่วนสำหรับเด็กๆ เราเชื่อว่าที่นี่มีบทบาทสำคัญในการเยียวยาและฟื้นฟูสุขภาพให้กับเด็กๆ ซึ่งทุกคนยังได้รับการศึกษาในโรงเรียนเป็นปกติ ในขณะที่พี่เลี้ยงประจำบ้านคอยดูแลจัดการความเรียบร้อย รวมถึงผลิตผลงานหัตถกรรมเป็นรายได้เสริม เราได้เห็นคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ดีขึ้นทุกครั้งที่เราไปเยี่ยมในแต่ละปี”
“นอกเหนือจากรายได้จากกิจกรรมวิ่งเที่ยงคืนการกุศลแล้ว เรายังส่งมอบเช็คมูลค่า 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.07 ล้านบาท) ในนามของมูลนิธิคาร์ล-มอนซ์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตกรรมการบริหารของบีเอ็มดับเบิลยู เอจี ท่านหนึ่งที่ได้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมาและปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของบีเอ็มดับเบิลยู เอจี เพื่อเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ร่วมสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเด็กๆ ในบ้านแกร์ด้า”
กิจกรรม “อมารี วอเตอร์เกท &บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย วิ่งเที่ยงคืนการกุศล” เป็นกิจกรรมการแข่งขันวิ่งเที่ยงคืนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย ทั้งนี้ รายได้จากการจัดงานดังกล่าวได้มอบให้กับองค์กรการกุศลสามแห่ง ได้แก่ บ้านแกร์ด้า บ้านพักสำหรับเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อเอชไอวี พร้อมมอบโอกาสในการใช้ชีวิตแบบปกติให้กับเยาวชนเหล่านั้น โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ในจังหวัดลำพูน ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่พักพิงและให้การศึกษาแก่เด็กหญิงที่ได้รับผลกระทบจากผู้ปกครองที่ติดเชื้อเอชไอวี เด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อการข่มขืนและคุกคามทางเพศ และเด็กหญิงที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษา โครงการเหรียญบาทเพื่อชีวิต ช่วยเหลือทุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสทั่วประเทศ
ในโอกาสนี้ ผู้บริหารและพนักงานของทั้งสองบริษัทได้ร่วมทำกิจกรรมและพบปะพุดคุยกับเยาวชนในบ้านพัก และได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมรายได้ของบ้านแกร์ด้า ด้วยการเลือกซื้อกระเป๋าจักสานแฮนด์เมด ผลงานการสร้างสรรค์ของน้องๆ เยาวชน หน่วยงานท่านที่สนใจสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว สามารถติดต่อร่วมสมทบทุนได้ที่เฟซบุ๊คของบ้านแกร์ด้า (www.facebook.com/BaanGerda) ในราคาใบละ 99 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง
นอกจากนี้ ท่านยังสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิสิทธิเด็ก 131/3 แจ้งวัฒนะ ซอย 13 ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ ทุ่งสองห้อง กรุงเทพ 10210 หรือ โทร. 02 982 8324