สนุกคิดสนุกอ่าน 6 ฐานการเรียนรู้สู่สุขภาวะ ที่ รร.อนุบาลวัดอ่างทอง ขยายผล “รักการอ่าน-ผสานสุขภาพ” สู่โรงเรียนเครือข่ายและชุมชน

พุธ ๒๐ พฤษภาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๒๐
เรื่องของ “สุขภาวะ” นับเป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่พบมากในเด็กระดับปฐมวัย ที่พบได้ผ่านพฤติกรรมต่างๆ อาทิ การรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ การล้างมือ หรือปัญหาเรื่องความอ้วน ที่เกิดจากการรับประทานขนมขบเคี้ยวต่างๆ

คณะครูของ “โรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง” ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้พยายามหาวิธีการที่จะทำให้เด็กเกิดความเข้าใจและปฏิบัติตัวได้อย่างถูกสุขลักษณะ จึงได้จัดทำ “โครงการอ่านเขียนได้ตามวัย ใส่ใจสุขภาวะ” ภายใต้ “โครงการต่อยอดพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน” โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อสร้างสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบของ “หนังสือสุขภาวะภายในโรงเรียน”

นายสมหมาย เก่งการ ผู้อำนวยการ รร.อนุบาลวัดอ่างทอง เล่าถึงที่มาของหนังสือสุขภาวะว่าเกิดขึ้นจากทางโรงเรียนได้นำโครงการที่เคยทำงานร่วมกับทาง สสค. ที่มีเป้าหมายในพัฒนาทักษะการพูดอ่านและเขียน มาขยายผลต่อเนื่องไปถึงเรื่องของสุขภาวะ โดย “หนังสือสุขภาวะ” เป็นสื่อการสอนที่ครูและนักเรียนร่วมกันพัฒนาและจัดทำขึ้นในระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวมไปถึงหนังสือสำหรับเด็กพิเศษที่เรียนร่วมอยู่ในโรงเรียน

“ถึงแม้ว่าเรามีหนังสือด้านสุขภาพจากหลายสำนักพิมพ์ แต่เด็กๆ ไม่ได้สนใจอยากที่จะอ่าน แต่พอเป็นหนังสือที่เด็กและครูร่วมทำกันเอง สังเกตได้ว่าเด็กให้ความสนใจมากขึ้น แต่เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละวัย เราจึงจัดให้ครูและนักเรียนมีการวางแผนร่วมกัน โดยมีครูศิลปะมาช่วยดูแลเรื่องภาพประกอบและคุณครูภาษาไทยมาดูแลเนื้อหาร่วมกับนักเรียน เรามองว่า นี่คือหน้าที่ของครูที่จะต้องสร้างจิตสำนึกและเสริมสร้างทักษะเรื่องต่างๆ เหล่านี้ให้กับนักเรียน” ผอ.สมหมาย กล่าว

ทางโรงเรียนได้มีการแบ่งฐานการเรียนรู้ออกเป็น 6 ฐาน ประกอบไปด้วย ฐานที่ 1 หนังสือเล่มเล็กส่งเสริมเด็กให้เรียนรู้, ฐานที่ 2 คุณครูพี่สอนน้อง, ฐานที่ 3 ตัวเราต้องหมั่นดูแล, ฐานที่ 4 สะอาดแน่ด้วยเจลล้างมือ, ฐานที่ 5 ขยะคือเรื่องสำคัญ และฐานที่ 6 มุ่งมั่นออกกำลังกาย โดยเรื่องราวต่างๆ ที่เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ผ่านฐานทั้ง 6 ฐาน ก็จะถูกนำมาร่วมกันคิดและผลิตเป็นเรื่องราวต่างๆ เพื่อคัดเลือกและจัดทำเป็นรูปเล่มต่อไป

จากการดำเนินงาน “โครงการอ่านเขียนได้ตามวัย ใส่ใจสุขภาวะ” ได้ก่อให้เกิด “หนังสือเสริมทักษะชีวิตด้านสุขภาวะ” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “หนังสือสุขภาวะ” จำนวน 7 เล่ม ได้แก่ หมู่บ้านเข้มแข็งและสิงโตปากเหม็น, คลินิกชีวิต, ชัยชนะของอิ่ม, อาหารสมองและก้องจอมกิน, สุขบัญญัติน่ารู้, สุขภาพดีไปกับเจ้าแกละ และเด็กหญิงวันดี

ทุกวันนี้หากใครได้เดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง ก็จะได้เห็นกิจกรรมน่ารักๆ ที่ครูและนักเรียนรุ่นพี่ชั้นประถม ช่วยกันอ่านและเล่านิทานในหนังสือที่พวกเขาช่วยกันแต่งขึ้นมาให้น้องๆ อนุบาลรับรู้ถึงพิษภัยของการบริโภคขนมที่ไม่มีประโยชน์ และเข้าใจถึงการรับประทานอาหารที่มีคุณค่า รวมไปถึงในโอกาสสำคัญต่างๆ เรื่องราวจากในนิทานยังได้ถูกนำมาแสดงเป็นละครเพื่อสร้างความสนุกสนานควบคู่ไปกับความรู้ในด้านสุขภาวะ นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของโรงเรียนยังได้จัดให้มีมุมส่งเสริมการเรียนรู้ “ห้องสมุดเคลื่อนที่” ที่รุ่นพี่ชั้นประถมและมัธยมได้พัฒนาศาลาไทยหลังเล็กๆ ให้เป็นมุมรักการอ่านเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ที่อยู่นอกเหนือไปจากการเดินเข้าห้องสมุด

“โรงเรียนของเราจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งเล่นกีฬา ออกกำลังกาย โดยเฉพาะเรื่องรักการอ่าน เราจะมีห้องสมุดเคลื่อนที่ให้กับเด็กๆ ได้เข้าไปใช้บริการ โดยจะมีครูภาษาไทยเป็นผู้ถ่ายทอดและแนะนำให้เด็กได้อ่านในช่วงเวลาว่างก่อนเข้าเรียน พักกลางวัน หรือตอนเย็นก่อนกลับบ้าน ซึ่งผู้ปกครองก็ได้เข้ามานั่งพักอ่านหนังสือระหว่างรอรับบุตรหลานได้ด้วย” ผอ.สมหมายกล่าวเสริม

แม้ว่าในปัจจุบันหนังสือสุขภาวะจากความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ จะประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการ โดยได้รับความสนใจอย่างสูงจนกลายหนังสืออ่านนอกเวลาที่เด็กนักเรียนทุกระดับชั้นให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทางคณะครูของโรงเรียนแห่งนี้ยังตระหนักถึงปัญหาในทำนองเดียวกันนี้ที่โรงเรียนอื่นๆ กำลังประสบอยู่ด้วย จึงได้มีแนวคิดที่จะขยายผลการดำเนินงาน ด้วยการกระจายหนังสือทั้ง 7 เล่มออกไปยังโรงเรียนเครือข่ายอีก 15 แห่ง และมีโครงการที่จะขยายไปสู่กลุ่มเครือข่ายรอง อย่างเช่นในกลุ่มผู้ปกครอง และชุมชนต่อไปอีกในอนาคต เพื่อสร้างประโยชน์จากการรักการอ่านให้เกิดขึ้นในวงกว้างอีกด้วย

นางวารีทิพย์ คงศรี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ รร.อนุบาลวัดอ่างทอง กล่าวถึงการขยายผลไปสู่กลุ่มโรงเรียนเครือข่ายว่า จะใช้วิธีระดมความคิดจากทุกโรงเรียนในการกำหนดเนื้อหา โดยจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน จากนั้นก็จะมีการเอาเค้าโครงเรื่องที่ได้มาปรับให้สอดคล้องกับความรู้ในเชิงวิชาการ โดยจะมีครูผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งด้านภาษาและศิลปะเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด

“กระบวนการสร้างหนังสือแต่ละเล่มนั้นใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน จากนั้นจะเริ่มทดลองใช้ในโรงเรียนก่อน เพื่อปรับเนื้อหาให้ตอบสนองเข้ากับเด็กในวัยเป้าหมายหรือไม่ เมื่อสอดคล้องแล้วจึงนำเข้าโรงพิมพ์ และนำมาใช้ในโรงเรียนและแจกจ่ายไปยังโรงเรียนเครือข่ายต่อไป” คุณครูวารีทิพ์ระบุ

ด.ช.พีรวัชร สุวรรณไตรย์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่าว่า “สิ่งที่ได้จากโครงการนี้คือการเรียนรู้การทำงานเป็นทีมร่วมกับน้องๆ ชั้น ป.3 และ ป.4 โดยได้ทำหนังสือเล่มเล็กเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ได้เรียนรู้ในเรื่องการช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีการคัดแยกขยะ”

ด.ญ. ณัฐนรี โลมะบรรณ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่าว่า “โครงการนี้ทำให้ได้ฝึกการอ่าน โดยเฉพาะคำยากๆ ได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของไทย เรื่องราวประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามต่างๆ และได้เรียนรู้เรื่องของการแยกขยะ ซึ่งเป็นความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญยังทำให้มีโอกาสได้สอนน้องชั้น ป.4 อ่านหนังสืออีกด้วย”

“เมื่อเด็กๆ ได้สัมผัส ได้เรียนรู้ ได้หัดการเขียน พอเขาโตขึ้นก็จะสามารถนำเอาประโยคต่างๆ มาเรียบเรียงต่อกันเป็นเรื่องราวได้ ผลดีที่ได้รับจากโครงการนี้นอกจากจะส่งผลเรื่องเกี่ยวกับการฟัง พูด อ่าน เขียน การเสริมสร้างจินตนาการแก่เด็กๆ แล้ว เขายังสามารถนำเรื่องราวและความรู้ด้านสุขภาวะต่างๆ ที่ได้รับจากการค้นคว้า อ่าน หรือฟังจากนิทาน ไปวิเคราะห์ต่อยอดไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไปได้ในอนาคต” ผอ.สมหมายกล่าวสรุป.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้