มนต์ชัย เดโชจรัสศรี กรรมการผู้อำนวยการ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ให้การต้อนรับผู้ที่สนใจอยากคว้าโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ ในการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ “ยูนิลีเวอร์” หลายร้อยคน ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่มารวมตัวกันเพื่อร่วมงาน “GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” พร้อมรับฟังการแชร์ประสบการณ์แห่งความสำเร็จจากเหล่าบุคคลต้นแบบ ทั้ง 6 คน ที่ประสพความสำเร็จกับการเป็นคู่ค้าร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์ เหมือนเช่น 2 แม่ลูก ผู้บริหารสโมสร 30 ล้าน พวงแก้ว อุเทนรัตน์ ที่ควงลูกชาย ธาริน อุเทนรัตน์ ฝ่าวิกฤตชีวิต หลังหัวหน้าครอบครัวจากไปอย่างกะทันหัน พร้อมทิ้งหนี้จากธุรกิจส่วนตัวหลายล้านไว้ให้ มีเพียงธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เท่านั้น ที่ช่วยกู้วิกฤตครั้งนี้ให้ครอบครัวอุเทนรัตน์ผ่านพ้นมาได้ และรับรายได้แบบ Passive Income พร้อมทริปท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คูลซีฟ
คุณแม่พวงแก้ว อุเทนรัตน์ Regional Executive Business Associate เผยว่า “ดิฉันเดิมมีอาชีพเป็นอาจารย์ค่ะ กระทั่งสามีซึ่งจบมาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ และมีธุรกิจส่วนตัวถึง 4 ธุรกิจ แต่ก็ยังสนใจการทำธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จากาการชักชวนของเพื่อน และตัดสินใจสมัครทันทีด้วยเงิน 600 บาท หลังจากที่สามีได้เข้ามาศึกษาธุรกิจ พร้อมทั้งมองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ และยังเป็นธุรกิจที่มีแต่ของสวยๆ งามๆ จึงเล็งเห็นว่าน่าจะเหมาะกับภรรยา จึงชักชวนให้เข้ามาศึกษาธุรกิจด้วยกัน แต่ตัวเองในตอนนั้นรู้สึกว่างานสอนหนังสือเด็กก็แทบจะไม่มีเวลาแล้ว แต่ไม่อยากขัดใจสามีจึงเข้ามาอบรม พร้อมบอกเพื่อนสามีที่เป็นคนชวนเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คนี้ว่า พูดไม่เป็น แนะนำใครไม่ได้นะ และก็ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ด้วย อย่าตั้งความหวังในตัวมาก แต่ก็เข้ามาศึกษาอบรมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ แต่เพราะไม่ชวน ไม่บอกใคร จนเวลาผ่านไป 1 เดือนจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัดสินใจลองซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้ เพียงอาทิตย์เดียว เริ่มมีคนเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และต่อด้วยคำถามว่าเธอใช้อะไร การทำธุรกิจจึงได้เริ่มต้นขึ้น และได้รู้ว่าการทำธุรกิจนั้นก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ผ่านไปสักระยะเริ่มมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เริ่มสร้างองค์กรของตัวเอง จนปี 2547 ได้เป็นนักขายตรงดีเด่นซึ่งใช้เวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น ดิฉันนจึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อมาลุยทำธุรกิจอย่างเต็มที่
กระทั่งปี 2548 สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อสามีเสาหลักของบ้านได้จากไปอย่างกะทันหันด้วยโรคร้าย ชีวิตเริ่มมีวิกฤติพ่วงด้วยหนี้สิน 6-7 ล้านบาทจากการทำธุรกิจเก่า และลูกอีก 3 คนที่ยังเรียนไม่จบ กระทั่งในงานศพของสามี เชื่อไหมค่ะในงานเต็มไปด้วยผู้คนจากธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ทั้งผู้บริหาร พี่ๆ น้องๆ ที่เป็นทั้งอัพไลน์ ดาวน์ไลน์ ให้เกียรติมาร่วมงานจนล้นศาลาวัด ทำให้ดิฉันมองเห็นความสวยงามของธุรกิจ เห็นเพื่อน เห็นมิตรภาพที่ทุกคนมีให้แก่ครอบครัวเรา ทั้งที่ในตอนนั้นเราคิดว่าครอบครัวเราไม่เหลืออะไรแล้ว แต่จริงๆ เรายังมีธุรกิจเครือข่าย ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค สำรองอยู่ ธุรกิจเครือข่ายที่สามีของเรา พ่อของลูกๆ สร้างเป็นมรดกเอาไว้ให้ ดิฉันจึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจสำรองนี้สร้างรายได้ให้เราได้มากที่สุด ที่ผ่านมาดิฉันและสามีจะร่วมทำธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ด้วยกันตลอด แต่มาวันนี้ดิฉันไม่มีเขาอยู่แล้ว ดิฉันจึงได้ชวนลูกชายให้เข้ามาช่วย และลุกขึ้นสู้อีกครั้งด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่น จนปี 2550 ดิฉันได้เข้าสู่สโมสร 10 ล้าน ได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆ กับพัฒนาบุคลากรในองค์กรของตัวเอง เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด”
ด้านลูกชาย ธาริน อุเทนรัตน์ Regional Executive Business Associate เผยว่า “ช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ทำธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ในตอนนั้น ผมไม่รู้อะไรเลยครับ ไม่รู้ว่าท่านทั้ง 2 กำลังทำอะไรอยู่ รู้แต่เพียงว่าบ้านเรามีธุรกิจเป็นของตัวเองนะ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเงินที่ส่งเสียผมและน้องเรียนกันจนจบ เป็นเงินจากยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ล้วนๆ ไม่เคยรู้ว่าธุรกิจส่วนตัวของครอบครัวเราที่คุณพ่อทำไว้ก่อนหน้านี้ ไม่สร้างกำไร แถมยังทิ้งหนี้สินให้อีกเมื่อตอนท่านจากไป เมื่อเสาหลักของบ้านได้จากไป ประกอบกับผมได้เห็นน้ำใจของคนยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค มาร่วมงานศพคุณพ่อกันมากมาย เมื่อคุณแม่ชวนให้ผมทำธุรกิจร่วมกัน ผมไม่ปฏิเสธเลยครับ ผมเข้ามาอบรม ศึกษาธุรกิจ และติดตามคุณแม่ไปหาผู้มุ่งหวัง คุณแม่ท่านไม่สอนครับ แต่ทำเป็นตัวอย่างให้ผมดู เรา 2 คนแม่ลูกช่วยกันประคับประคอง ฟันฝ่าทุกวิกฤตที่เข้ามาในครอบครัว พร้อมเดินหน้าทำธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คอย่างเต็มที่ จนสามารถปลดหนี้สินได้หมด พร้อมขึ้นตำแหน่งทางธุรกิจเป็นลำดับ เช่นล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว เราแม่ลูกได้เข้าทำเนียบผู้บริหารสโมสร 30 ล้าน นับเป็นความภาคภูมิใจของเราเป็นอย่างมาก ยังไม่นับทริป ท่องเที่ยวที่เป็นเหมือนรางวัลชีวิต ที่เราเดินทางร่วมกับบริษัทแบบเอ็กซ์คูลซีฟไม่ต่ำกว่า 10 ประเทศ อาทิ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮังการี จีน เยอรมนี เชค ออสเตรีย แอฟริกาใต้ เนอเธอร์แลนด์ บาหลี เป็นต้น ถ้าวันนั้นคุณพ่อไม่แนะนำให้ครอบครัวเราได้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ครอบครัวเราอาจยังไม่พ้นจากการเป็นหนี้ 6 - 7 ล้านอย่างแน่นอน กว่าที่คุณแม่และผมจะมาถึงจุดนี้ได้ เราโดนปฏิเสธมามากกว่าที่จะมีคนเซย์เยส และเพราะธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ทำให้ผมมองเห็นความเชื่ออีกอย่างว่า ความสำเร็จไม่มีทางเดินมาหา มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องเดินไปหามัน ในเมื่อคุณแม่และผมทำได้ ผมเชื่อว่าคุณก็ทำได้เช่นกันครับ”
เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความสำเร็จจากผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ในงาน “GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” ที่มาร่วมแชร์แบ่งปันเส้นทางสู่ความสำเร็จ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เพราะยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เชื่อว่า “เราทำได้ คุณทำได้”