พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีภารกิจในการพัฒนาสังคม สร้างความ เป็นธรรมและความเสมอภาคในสังคม ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและความมั่นคงในชีวิต สถาบันครอบครัวและชุมชน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กและเยาวชน ครอบครัว สตรี ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่ต้องได้รับการคุ้มครองดูแล นอกจากนี้กระทรวงฯ ยังมีการดำเนินงานตามนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เพื่อร่วมกันสร้างสังคมไทยที่ “มุ่งสู่สังคมคุณภาพ บนพื้นฐานความรับผิดชอบร่วมกัน” ดังนั้นด้วยภารกิจ ของกระทรวงฯ ที่มีทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติ การดำเนินงานจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย ภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อร่วมกันเติมเต็มและพัฒนากลุ่มเป้าหมายให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด เป็นหน่วยงานสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีภารกิจในการดูแลเด็กที่ถูกทอดทิ้ง พ่อแม่และครอบครัวที่ไม่มีศักยภาพดูแล ซึ่งปัจจุบันมีเด็กอายุแรกเกิด ถึง ๕ ปี อยู่ในความดูแล จำนวน ๓๒๑ คน จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ในการดูแลเด็ก และจ้างพี่เลี้ยงให้มีความเหมาะสมกับจำนวนเด็กที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละปีต้องใช้เงินบริจาคมาสนับสนุนการดำเนินงานไม่น้อยกว่า ๑๒ ล้านบาท รวมทั้งไม่สามารถขอสนับสนุนงบประมาณ เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารได้ ส่งผลให้สถานสงเคราะห์ฯ ไม่มีสถานที่ทำกิจกรรมสำหรับเด็กในช่วงกลางวันและเวลาฝนตก สถานสงเคราะห์ฯ จึงจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนทรัพยากรจากหน่วยงานอื่น ทั้งด้านงบประมาณและกำลังคน เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารกิจกรรมสำหรับเด็กขึ้น ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคณะนักศึกษา วปอ.รุ่น ๒๕๕๖ ในการสนับสนุนเงินค่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง และกองพันทหารช่าง กองทัพภาคที่ ๒ ในการสนับสนุนด้านแรงงาน ทั้งนี้ เมื่ออาคารกิจกรรมดังกล่าวแล้วเสร็จ เด็กในความดูแลของสถานสงเคราะห์ฯ จะมีอาคารกิจกรรมที่บังแดด บังฝน และสามารถทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ตามช่วงวัยได้ตลอดทั้งวัน
“การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแบ่งปันและเติมเต็มให้กับกลุ่มผู้เดือดร้อน หรือขาดโอกาสทางสังคม ตลอดจนมีส่วนสนับสนุนการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาสังคมของกระทรวงฯ ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย