ภายในงาน BIG+BIH October 2015 ที่สุดของงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์นานาชาติ จัดขึ้นที่ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 19 - 23 ตุลาคม 2558 นอกจากจะนำเป็นศูนย์กลางเลือกซื้อ อัพเดทเทรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ที่ครบครันที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มีผู้ร่วมงาน 489 บริษัท 1,353 คูหามาจัดแสดงแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์นิทรรศการที่ไม่ควรพลาด คือโซนแสดงสินค้าสำหรับงานแต่งงาน หรือ "The Art of Hospitality from Thailand" ถือเป็นอีกโซนที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและงานแต่งงานทั้งในและต่างประเทศที่ต้องการอัพเดทเทรนด์ห้ามพลาด
โครงการฯ ซึ่งดำเนินการโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับที่ปรึกษาโครงการ Mr. Yuichi Maetani นักจัดดอกไม้และ Wedding Planner มือหนึ่งของญี่ปุ่นเพื่อร่วมกันเจียระไนผู้ประกอบการไทย ในการพัฒนาสผลิตภัณฑ์รวมถึงการนำกลุ่มสินค้าโรงแรมและงานแต่งงานไปปักธงในตลาดญี่ปุ่น
Mr. Yuichi Maetani ซึ่งบินตรงจากโตเกียว มาร่วมงานและจัดนิทรรศการ เปิดเผยว่า "ปัจจุบัน โครงการก้าวสู่ปีที่ 2 โดยในปีนี้จะเน้นเกี่ยวกับธุรกิจงานแต่งงาน คนญี่ปุ่นจะนิยมจัดงานแต่งงานในโรงแรม เพราะฉะนั้นรายได้กว่า 40% ของโรงแรมจะมาจากงานแต่งงาน ดังนั้น โรงแรมในญี่ปุ่นจะขายเป็นลักษณะ Wedding Package ซึ่งรวมทั้งเรื่องอาหาร ไปจนถึงการจัดงานเลี้ยง ประกอบกับตลาดญี่ปุ่น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้นโรงแรมต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมที่จะดึงลูกค้า ด้วยการนำเสนอแพ็คเกจดีๆ ต้องพัฒนาสินค้าและบริการ เนื่องจากเทรนด์งานแต่งงาน จะเปลี่ยนทุกๆ 2 ปี"
"โรงแรมใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นจะมีวาไรตี้ให้เลือก ตอบโจทย์รสนิยมของลูกค้าที่มีความหลากหลาย บางคนอาจจะชอบแนวหรูหรา บางคนอาจจะชอบแนวธรรมชาติ บางคนชอบแนว Stylish แต่ไม่ว่าลูกค้าจะชอบแนวไหน โรงแรมต้องสามารถนำเสนอบริการและสินค้าที่ลูกค้าต้องการให้ได้
สำหรับโครงการฯ นี้ จะเน้นกลุ่มโรงแรมระดับไฮเอนด์ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก รองลงมาคืองานแต่งงานตามร้านอาหาร ภัตตาคาร โดยกลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันกับผู้ประกอบการที่ครองตลาดอยู่แล้วนั้น Mr. Yuichi Maetani เล่าว่า "การเสนอขายสินค้าไปกับกลุ่มบายเออร์ หรือหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อ ของโรงแรม จะไม่ได้ผล เพราะจะนึกภาพไม่ออกว่าสินค้าเราดีอย่างไร ดังนั้น จึงต้องนำเสนอเป็นสไตล์ เป็นธีมคอนเซ็ปท์ ต้องขายในลักษณะแพ็คเกจ เป็นการคิดแทนให้ลูกค้า เป็นการเล่าศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและสินค้าไทยไปในตัว
Mr. Yuichi Maetani ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาของโรงแรม The Ritz-Carlton เล่าต่อว่า "จุดเด่นของสินค้าไทย อยู่ที่ตัวของผู้ประกอบการ คนไทยมีฝีมือในผลิตสินค้า แต่อาจยังขาดข้อมูลเรื่องความต้องการของตลาด รสนิยมของตลาดชัดเจน ก็สามารถผลิตสินค้าที่ต่างประเทศชอบได้ เรียกว่าคนไทยมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว หากได้ Guideline ที่ดี ก็จะสามารถประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ปัจจุบัน เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมาก ว่าโรงแรม Sheraton Mihama ที่โตเกียว ซึ่งเป็นโรงแรมที่จัดงานแต่งงานมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ปีนึงจัดงานแต่งงานประมาณ 3,000 คู่ ก็ได้สั่งซื้อสินค้าจากโครงการของ DITP เมื่อสินค้าไทย สามารถก้าวไปอยู่ในโรงแรมที่จัดงานแต่งงานสูงสุดของญี่ปุ่น โรงแรมอื่นๆ เขาก็จะว่า Sheraton ใช้ของอะไร เรียกว่าเป็นใบเบิกทางที่ดีมาก
เพื่อตอบรับเทรนด์งานแต่งงานของปีนี้ นิทรรศการ The Art of Hospitality from Thailand จัดแสดงในรูปแบบของ Wedding Reception ภายใต้ธีมที่กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ได้แก่ Natural Style เน้นความเรียบง่ายและงดงามอย่างธรรมชาติ Modern Black คุมโทนเข้มดำ เน้นความเรียบทันสมัย และ Luxury Style ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหรา มีเอกลักษณ์ สินค้าที่จัดแสดงนั้นล้วนเป็นสินค้าดีไซน์ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้ในงานแต่งงานสไตล์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ของใช้สำหรับเจ้าสาว ของชำร่วย เฟอร์นิเจอร์ ของใช้บนโต๊ะอาหารงานเลี้ยงรับรองแขก อาทิ ชุดจานชาม เครื่องใช้สแตนเลส เครื่องเซรามิก Napkin Rings เชิงเทียน แก้วไวน์คริสตัล ฯลฯ
"สิ่งที่มีความสำคัญและควรจะทำเป็นอย่างยิ่งคือ การใช้ช่องทางออนไลน์หรือไอทีให้เป็นประโยชน์ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคญี่ปุ่นที่ใช้ไอทีกันเยอะ ในอนาคต ลูกค้าไม่จำเป็นที่ต้องบินมาสินค้าด้วยตัวเอง ใช้การดูผ่านเว็บไซต์ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยต้องอัพเดท ออกแบบสินค้าให้ทันสมัย ที่สำคัญต้องก้าวนำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ" Mr. Yuichi ทิ้งท้าย
พบกับสินค้าสำหรับธุรกิจงานแต่งงานได้ที่ นิทรรศการ The Art of Hospitality from Thailand (Hotel and Wedding Zone) ฮอลล์ 103 ไบเทค บางนา ภายในงาน BIG+BIH October 2015 เปิดเจรจาธุรกิจ ระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคม 2558 เวลา 10.00-18.00 น. และเปิดจำหน่ายปลีก ระหว่างวันที่ 22-23 ตุลาคม 2558 เวลา10.00-21.00 น. ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่ www.bigandbih.com