ถอดบทเรียนจากค่ายพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำ ปลุกจิตสำนึกให้เยาวชน

พุธ ๑๖ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๑๓:๔๐
จากจำนวน 17 รุ่นที่ผ่านมาของนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์เอกตราที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมออกค่ายอาสาพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำและช่วยเหลือชุมชน ทำให้ผลผลิตของนักเรียน "โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา" แห่งนี้ได้มีโอกาสได้ฝึกทักษะและต่อยอดทางความคิดในการเป็นผู้นำให้กับเยาวชน ภายใต้ความหวังให้เมล็ดพันธุ์แห่งความดี ได้เติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่แข็งแรงและเป็นที่พึ่งให้กับสังคมในอนาคต กิจกรรมค่ายอาสาพัฒนาความเป็นผู้นำโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ได้ลงพื้นที่ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้กิจกรรม "ค่ายอาสาพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำและช่วยเหลือชุมชนปีที่ 18" กิจกรรมนี้จะมีนักเรียนในระดับชั้นมัธยมปีที่ 5 จำนวน 70 คน ลงพื้นที่กระจายกันไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในชนบทเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม แยกตามสีของโรงเรียน ได้แก่ สีฟ้า สีม่วง สีเขียว และสีเหลือง ลงพื้นที่เข้าไปสอนหนังสือพร้อมกับพัฒนาโรงเรียน 4 แห่ง ได้แก่ 1.โรงเรียนบ้านกาด (เขมวังศ์) 2.โรงเรียนบ้านใหม่สวรรค์ 3.โรงเรียนบ้านเหล่าป่าฝาง และ4.โรงเรียนวัดทุ่งศาลา

โดยแต่ละกลุ่มแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย ฝ่ายพัฒนา ฝ่ายวิชาการ และฝ่ายนันทนาการ ซึ่งฝ่ายพัฒนาจะทำหน้าที่ในการปรับปรุงโรงเรียนให้น่าอยู่ อาทิ ทาสีรั้วโรงเรียนใหม่ // ซ่อมแซมห้องสมุด // ทำพื้นสนามให้สะอาด และปรับเปลี่ยนห้องพยาบาลให้ถูกหลักอนามัย ในด้านวิชาการแต่ละกลุ่ม จะต้องทำแผนการสอนทั้ง 4 วิชา เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่เมื่อมาผ่านขั้นตอนการสอนจริง ๆ ทำให้รู้ว่า น้อง ๆ เหล่านี้ ไม่ได้ภาษาอังกฤษ จึงต้องวางแผนใหม่ เพี่อให้น้อง ๆ ได้ประโยชน์จากการเรียนการสอนในครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ในส่วนของฝ่ายนันทนาการได้ทำตามหลักสูตรของกระทรวงการศึกษาธิการให้มีการทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเริ่มจากการละลายพฤติกรรมและจัดกิจกรรมกายบริหาร จึงทำให้น้อง ๆ ได้รับความรู้และความสนุกไปพร้อม ๆ กัน

ตลอดระยะเวลาการออกค่ายอาสาฯ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความผูกพัน // ความสัมพันธ์และการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่และกับครอบครัวใหม่ นักเรียนที่ออกค่ายอาสาฯ จะได้รับการฝึกฝนตนเองในการช่วยเหลือต่างๆ การดูแลโรงเรียน ทำอาหาร ทำความสะอาด ซ่อมแซมส่วนที่ทรุดโทรมหรือแม้กระทั่งการสอนหนังสือน้อง ๆ ที่อยู่ที่บ้านหรือที่โรงเรียนที่เราออกค่ายอาสาฯ และร่วมพัฒนาโรงเรียนร่วมกัน จากเด็กนักเรียนคนเมืองที่มีความสะดวกสบาย พ่อแม่ผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา จะต้องปรับชีวิตตนเองภายใน 1 อาทิตย์ ให้ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ชีวิตในชนบทที่ค่อนข้างลำบาก ไม่สะดวกสบายเหมือนชีวิตคนเมืองและต้องผ่านกิจกรรมการลงพื้นที่สอนหนังสือให้กับน้อง ๆ ที่อยู่โรงเรียนห่างไกล พร้อมพัฒนาโรงเรียนให้ไม่ทรุดโทรม แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ที่ได้ลงไปคลุกคลีกับน้อง ๆ แต่ก็ทำให้เด็กนักเรียนที่ออกค่ายอาสาฯ ได้รับทักษะชีวิต เพื่อให้ทันต่อกระแสสังคมที่พร้อมจะส่งต่อโอกาสให้กับชุมชน ซึ่งในส่วนนี้ก็คือผลลัพธ์ที่ทำให้ติดตัวเด็กตลอดไป ดังเช่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา

น.ส.อรนิชา อภิวิศาลกิจ หรือน้องซีเจ ตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่าว่า "ค่ายอาสาพัฒนาความเป็นผู้นำฯ เป็นเสมือนสถานบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ใหม่ ๆ ทำให้ได้ประโยชน์ใน 2 ลักษณะด้วยกัน คือ 1.ด้านการฝึกฝนตนเองให้มีความเข้มแข็งและการให้และเสียสละ 2.ด้านการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างตั้งใจจริง ซึ่ง 2 สิ่งนี้ทำให้ตนเองเกิดความรู้สึกผูกพันและภูมิใจกับตัวเองที่ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคม แม้จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งของชีวิต ที่ได้ลงมือเข้าไปช่วยเหลือ และการอยู่ร่วมกันกับน้อง ๆ ในชนบทที่ห่างไกล ได้เรียนรู้วิถีชีวิต สภาพความเป็นอยู่ ที่แตกต่างจากคนในสังคมเมือง ซึ่งแรก ๆ ตัวเราเองยังปรับตัวไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามปรับตัวให้ได้ สิ่งที่ได้รับคือการได้ฝึกการเรียนรู้วิถีชีวิตที่แตกต่างกันระหว่างสังคมเมืองที่เราเคยอยู่กับสังคมนอกเมืองที่อยู่ห่างไกล

นายณัฐพล สรรพโชติ หรือน้องเอส ตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 บอกว่า "หลังจากได้ร่วมกันทำกิจกรรมค่ายพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำและช่วยเหลือชุมชนรุ่นที่ 18 ทำให้พวกเราได้เปลี่ยนความคิดให้เข้าใจกับคำว่าการทำงานเป็นทีม การรู้จักแก้ปัญหา การฝึกทักษะทางความคิดและทักษะการพูดการสอนให้เข้าใจ รวมถึงความมีน้ำใจ และคำว่า "โอกาส" มากขึ้น เพราะคนเรานั้นมีโอกาสเลือกที่แตกต่างกัน แต่วันนี้เราได้มีโอกาสมาอยู่ตรงนี้ ทำให้รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการมาค่ายอาสาฯ ในครั้งนี้ ต้องทำงานกับคนที่มีความหลากหลาย ต้องอย่าลืมว่าการพัฒนาสังคมไม่ได้เกิดจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ต้องเกิดจากหลายฝ่ายร่วมมือกัน แบ่งปันข้อมูล ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มิตรภาพที่ได้รับกลับมาจากน้อง ๆ ที่ได้เห็นรอยยิ้ม และน้อง ๆ ได้เข้าใจกับสิ่งที่เราตั้งใจมอบให้ ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับการมาค่ายในครั้งนี้"

น.ส.ณัฏฐาเนตร ฝักไพโรจน์ หรือน้องเพียวอิ๊ว ตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เผยอีกหนึ่งมุมมองว่า "กิจกรรมที่เราได้ลงพื้นที่ไปสอนหนังสือให้กับน้องโรงเรียนห่างไกล ทำให้เราได้เห็นว่าเรามีโอกาสมากกว่าน้อง ๆ มากแค่ไหน แต่ทำไมเราถึงไม่เห็นถึงคุณค่าของคำว่า"โอกาส" นั้น ๆ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้เองทำให้เราเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมองใหม่เพราะโอกาสดี ๆ ไม่ใช่ว่าจะมีกันทุกคน ถ้ามีโอกาสควรจะใช้ให้เต็มที่ และนอกจากนี้เรายังได้รับมิตรภาพที่จริงใจจากน้อง ๆ ที่มอบให้กับเราอีกด้วย"

ด้านอาจารย์สุภาวดี โชติวรรณพร รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการประถมและมัธยม โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา กล่าวปิดท้ายว่า "กิจกรรมค่ายพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำและช่วยเหลือชุมชนรุ่นที่ 18 จัดขึ้นเพื่อต้องการปลูกฝังทักษะและคุณธรรมที่มีค่ายิ่งในการดำเนินชีวิตและต้องการให้นักเรียนเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านและของน้อง ๆ ที่อยู่โรงเรียนห่างไกลที่ไม่ได้รับโอกาสมากเท่ากับพวกเขา (นักเรียนโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา) แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องการให้นักเรียนของเรา เห็นถึงคุณค่าของคำว่าแบ่งปันน้ำใจให้กับผู้อื่น ซึ่งหัวใจหลักของกิจกรรมนี้คือประสบการณ์นอกห้องเรียนที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน นอกจากการลงพื้นที่แล้วได้เห็นสิ่งที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้"

การมุ่งพัฒนานักเรียนให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพมีคุณงามความดี ทั้งทางกาย วาจา ใจ จึงจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต เพื่อการเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความอดทน มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีความกตัญญูกตเวที มีความเมตตากรุณา ซึ่งจะทำให้ผู้ปฏิบัติและสังคมเกิดความสงบสุข เมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนตนเองจนเกิดคุณธรรมดังกล่าวแล้ว คุณธรรมเหล่านั้นก็จะเป็นสิ่งที่คอยควบคุมกำกับ และน้อมนำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความดีเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในสังคมต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4