นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยความสำเร็จในการพาผู้ประกอบการ ติดตามคณะรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไปประเทศรัสเซีย ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ ได้มีการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างไทยและรัสเซียหลายเรื่อง ในส่วนของ สสว. ได้จัดให้ผู้ประกอบการ SMEs 32 ราย ได้พบปะกับผู้ซื้อซึ่งเป็น Whole Sale & Retail ประเทศรัสเซีย ในลักษณะ Business Matching ซึ่งผลที่ได้รับดีเกินคาด ได้รับการตอบรับจากนักธุรกิจประเทศรัสเซีย โดยมีคำสั่งซื้อสร้างมูลค่าทางการค้าได้กว่า 400 ล้านบาท โดยสินค้าของไทยที่เป็นที่สนใจอันดับ 1 ได้แก่ น้ำพริกแกงสำเร็จรูป ซึ่งผู้ประกอบการได้นำไปขาย 3 ตู้คอนเทนเนอร์ สามารถทำยอดขายได้ 100 ล้านบาท รองลงมาคือ ข้าวออกานิกส์ เครื่องสำอางที่ผสมมุก และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปา ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่ได้พาผู้ประกอบการมาเปิดตลาดที่ประเทศรัสเซีย โดยยอดขายที่สร้างรายได้เป็นจำนวนมากดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบที่ร่วมเดินทางครั้งนี้ พอใจเป็นอย่างมาก และต้องการให้ สสว. ดูแลในเรื่องการขนส่งและโลจิสติกส์ในการทำการค้าในประเทศรัสเซียอีกด้วย
นอกจากนี้ สสว. ได้มีโอกาสหารือกับหอการค้ารัสเซียและสมาคมเอสเอ็มอีรัสเซีย ที่มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการจำนวนเกือบ 4 แสนราย โดยสมาคมเอสเอ็มอีรัสเซียต้องการให้ สสว. สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจะไปเปิดตลาดรัสเซีย ถึงศักยภาพและโอกาสทางการค้า
ในรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ มีกำลังซื้อสูง และเป็นตลาดต่างประเทศที่มีความสำคัญในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะมีการเจรจาทำการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการรัสเซียมานานก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า ผู้ประกอบการไทยยังไม่มีความมั่นใจเรื่องของการชำระเงิน ซึ่ง สสว. ได้ประสานงานกับธนาคาร EXIM Bank และสามารถนำเสนอข้อยุติที่ทำให้ผู้ประกอบการคลายความกังวลลงได้และเพื่อเป็นการส่งเสริมสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สสว. ได้มีการหารือแบบไม่เป็นทางการกับนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ถึงความเป็นไปได้ในการโปรโมทสินค้าของเอสเอ็มอี ซึ่งนายธนินท์รับปากว่า จะช่วยโปรโมทสินค้าเอสเอ็มอี ผ่านเครือข่ายของซีพี กรุ๊ป ผ่าน 3 ช่องทางการตลาดของซีพี ได้แก่ ตลาดในประเทศ ตลาดต่างประเทศและตลาดออนไลน์ ซึ่งจะมีการหารือร่วมกับ สสว. ในเรื่องดังกล่าวต่อไป