กรมศุลกากรจับกุมขบวนการฉ้อฉลการขอคืนเงินอากรสินค้าประเภทเหล็ก ตามมาตรา 19 ทวิ รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 120 ล้านบาท

อังคาร ๓๑ พฤษภาคม ๒๐๑๖ ๑๘:๒๖
วันนี้ (วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2559) เวลา 11.00 น. ณ บริเวณลานจอดรถยนต์หน้าส่วนของกลาง สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวจับกุมสินค้าประเภทท่อเหล็ก ปริมาณ 16,443 ชิ้น น้ำหนัก 481,490 กิโลกรัม ซึ่งผู้ส่งออกได้ทุจริตฉ้อฉลในการขอคืนเงินอากร ตามมาตรา 19 ทวิ โดยใช้กลวิธีวนสินค้าที่อ้างว่าเป็นของที่ตนผลิตเพื่อส่งออก และนำสินค้ารายเดียวกันนั้นกลับเข้ามาเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ และตัดบัญชีสินค้าที่นำเข้าตามมาตรา 19 ทวิ อีก ทั้งนี้ เพื่อจะขอคืนอากรในภายหลังรวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 120 ล้านบาท

ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นเป็นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ สินค้าหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าที่แสดงถิ่นกำเนิดเป็นเท็จ รวมถึงกรณีที่มีลักษณะฉ้อฉลเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมศุลกากรจึงได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ดำเนินการวางแผนสืบสวนหาข้อมูลเพื่อจับกุมขบวนการทุจริตขอคืนเงินอากร ตามมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พุทธศักราช 2482 โดยเฉพาะสินค้าประเภทท่อเหล็ก ซึ่งจะต้องเสียอากรปกป้องสินค้านำเข้า 41.67% ของราคา C.I.F. และอากรตอบโต้การทุ่มตลาด 19.47% ของราคา C.I.F.

จากการสืบทราบข้อมูลของหน่วยปฏิบัติการพิเศษว่า มีการวนสินค้าประเภทเหล็กนำเข้าและส่งออกเป็นชุดเดียวกัน แล้วใช้สิทธิขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร ฉบับที่ 9 พ.ศ. 2482 จึงได้จัดชุดเฝ้าติดตามจนพบว่า บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ส่งสินค้าออกไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวทางด่านศุลกากรมุกดาหารโดยรถบรรทุกกึ่งพ่วงจำนวน 10 คัน และขอใช้สิทธิคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ โดยได้ผ่านพิธีการส่งออกเสร็จสิ้นแล้ว แต่ปรากฏว่าได้มีการนำสินค้ารายเดียวกัน กลับเข้ามาในประเทศโดยรถฯ ทั้ง 10 คันดังกล่าวในชื่อบริษัท เหล็กไทเกอร์ จำกัด

หน่วยปฏิบัติการพิเศษจึงขอกำลังจาก ฝปป.2 สปป.1 สสป. จัดชุดติดตามรถฯ ที่กลับเข้ามาในประเทศพบว่า รถฯ ทั้งหมดได้ไปจอดพักสินค้าอยู่ที่โกดังบริษัท เหล็กฟ้าใส จำกัด ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ฯ ได้จัดชุดเฝ้าโกดังดังกล่าวพบว่า รถฯ ทั้งหมดได้จอดอยู่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของโกดังโดยไม่มีการขนถ่ายหรือทำประการใดๆ กับสินค้าบนรถฯ และในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2559 รถฯ ทั้ง 10 คันได้ทยอยออกจากโกดังบริษัท เหล็กฟ้าใส จำกัด โดยใช้เส้นทางโคราช - ประทาย - ร้อยเอ็ด - ยโสธร – กลับสู่จังหวัดมุกดาหาร และไปจอดรอส่งออกบริเวณหน้าด่านศุลกากรมุกดาหาร จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2559 หน่วยปฏิบัติการพิเศษจึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานและจับกุมรถฯ ทั้ง 10 คัน โดยพบว่าสินค้าดังกล่าวได้ส่งออกในชื่อบริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ตามใบขนสินค้าขาออกขอใช้สิทธิ์คืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ เลขที่ A023 15905 01569 และผ่านขั้นตอนการตรวจปล่อยจากเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมุกดาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ต่อมาวันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2559 เจ้าหน้าที่ฯได้ขยายผลการจับกุมโดยการขอหมายค้นของศาลจังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบบริษัท เหล็กฟ้าใส จำกัด และได้จับกุมรถบรรทุกกึ่งพ่วงซึ่งบรรทุกสินค้าประเภทท่อเหล็ก อีกจำนวน 5 คัน ซึ่งมีพฤติการณ์เดียวกันกับรถฯ 10 คันที่ได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ รวมจับกุมรถบรรทุกกึ่งพ่วงบรรทุกสินค้าประเภทท่อเหล็กทั้งสิ้น 15 คัน รวมมูลค่าสินค้าตามใบขนสินค้าทั้งสิ้น 9,621,835.94 บาท (มูลค่าสินค้ารวมอากรขาเข้า) เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานทุจริตขอคืนเงินอากร ตามมาตรา 19 ทวิ (หลักการของการขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 นั้น คือ ต้องเป็นของที่นำเข้ามาผลิต ผสม หรือประกอบ แล้วส่งออกไปต่างประเทศ ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่นำเข้า) โดยของที่ส่งออกจะต้องเป็นของที่ได้จากการผลิต ผสม ประกอบ โดยของที่นำเข้าทั้งหมดไม่ใช่ของที่ส่งออกรายเดียวกันกับที่นำกลับเข้ามาเพื่อตัดบัญชี 19 ทวิ กรณีจึงเป็นความผิดตามมาตรา 27, 60 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 เจ้าหน้าที่จึงยึดรถบรรทุกกึ่งพ่วงทั้ง 15 คันและสินค้าของกลางทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทผู้ส่งออกและนำตัวคนขับรถ ส่งให้ สภ.อ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบสถิติย้อนหลังของขบวนการนี้ พบว่า ได้มีการฉ้อฉลในลักษณะนี้มาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2559 ถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 12 ใบขน จำนวนปริมาณ 114,017.00 ชิ้น น้ำหนัก 3,523,140.00 กิโลกรัม รวมมูลค่าสินค้าทั้งสิ้น 70,421,503.80 บาท ซึ่งในกรณีนี้บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด มิได้มีการผลิต ผสมหรือ ประกอบแต่อย่างใด แต่ได้ขอใช้สิทธิขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ หากฉ้อฉลเป็นผลสำเร็จจะก่อให้เกิดความเสียหายจากการขอคืนค่าภาษีอากรเป็นมูลค่าสูงถึง 49,588,707.48 บาท และรวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น 120,010,211.28 บาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้