พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เวลา ๒๓.๐๐ น. เกิดเหตุเพลิงไหม้หอพักนักเรียนหญิงเสียหายหมดทั้งหลัง ซึ่งใช้เป็นหอพักนักเรียนหญิงชั้นประถมของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ตำบลเวียง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ทำให้มีนักเรียนหญิง ถูกไฟคลอกเสียชีวิตรวมจำนวน ๑๗ ราย นั้น ตนมีความห่วงใยเด็กและครอบครัวที่ได้ผลกระทบทุกคน จึงได้มอบหมายนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายในวันนี้ (๒๔ พ.ค. ๕๙) เพื่อมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ฯ รวมทั้งติดตามการดำเนินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวอณิรา ธินนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย
(พมจ.เชียงราย) ว่า ขณะเกิดเพลิงไหม้มีเด็กที่อยู่ในหอพักดังกล่าวจำนวน ๓๖ คน โดยมีเด็กหญิงถูกไฟคลอกเสียชีวิตรวมจำนวน ๑๗ ราย บาดเจ็บ ๕ คน ซึ่งบาดเจ็บสาหัส ๒ คน บาดเจ็บเล็กน้อย ๓ คน และไม่ได้รับบาดเจ็บ ๑๔ คน ทั้งนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้บูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหาย ณ ที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้า ซึ่งนายอำเภอเป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการ พร้อมทั้งมีการเปิดบัญชีรับบริจาค บัญชีช่วยเหลือผู้ประสบภัยนอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงสิทธิ์ให้ผู้ได้รับความเสียหายทั้ง ๓๖ ครอบครัว และได้สรุปข้อมูลเด็กทั้ง ๓๖ ราย แบ่งเป็นเด็กจากเชียงราย ๒๓ คน เชียงใหม่ ๑๒ คน และแม่ฮ่องสอน ๑ คน โดยเตรียมค่าใช้จ่ายเบื้องต้นรายละ ๓,๐๐๐ บาทซึ่งจะประสานหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในภูมิลำเนาเชียงใหม่ต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวนับเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขอให้ทุกหน่วยงานนำไปเป็นกรณีศึกษาเพื่อหาแนวทางและกำหนดมาตรการการป้องกันที่เข้มงวดไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีหญิงวัย ๕๒ ปี อาชีพขับรถสามล้อเครื่องรับจ้าง ถูกคนร้ายเป็นชายออกอุบายให้ไปส่ง และหลอกจี้ชิงทรัพย์สิน ข่มขืนกระทำชำเรา และทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนเสียชีวิตสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับสามีและครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เสียชีวิต เป็นคนดีมีจิตอาสา ให้การช่วยเหลือหน่วยงานราชการมาโดยตลอด เป็นที่รักของญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ที่จังหวัดอุดรธานี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี (พมจ.อุดรธานี) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยด่วน และกรณีชาวสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวขอความช่วยเหลือหญิงวัย ๕๕ ปี ป่วยเป็นมะเร็งในช่องปาก ลุกลามเป็นแผลเน่าทั่วใบหน้า ไม่สามารถกินอาหารได้กินได้แต่นมและของเหลว อาศัยอยู่กับสามีแก่ชราตามลำพังในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมไม่มีไฟฟ้าใช้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินรักษา ทั้งนี้เจ้าตัวเปิดเผยว่าตนเอง มีลูก ๓ คน แต่แยกย้ายหนีหายไปหมดแล้ว ไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียน ที่จังหวัดสระบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี(พมจ.สระบุรี) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดูแลเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและถูกสุขลักษณะต่อไป