เกาะติดการผลิตการตลาดมันสำปะหลัง สศก. แจงภัยแล้งฉุดเปอร์เซ็นต์แป้งลด บางส่วนขาดแคลนต้นพันธุ์

จันทร์ ๑๓ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๖:๑๗
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุ ภัยแล้งกระทบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังบางส่วนได้รับความเสียหาย หัวมันสำปะหลังมีขนาดเล็ก เชื้อแป้งลดลง โดยราคาที่เกษตรกรขายได้ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่กิโลกรัมละ 1.87 บาท ด้านภาครัฐเร่งเดินหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด ปี 2558/59 เพื่อสนับสนุนเงินทุน ช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตแล้ว

นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตและการตลาดมันสำปะหลังในแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังที่สำคัญของภาคกลางและภาคเหนือ ว่า มันสำปะหลังได้ออกสู่ตลาดมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึง พฤษภาคม 2559 ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจ พบว่า ปีนี้หัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก เชื้อแป้งลดลงประมาณ 1- 3% รวมทั้งผลผลิตต่อไร่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะภัยแล้ง โดยเกษตรกรบางส่วนขุดมันสำปะหลังไม่ครบอายุ ประกอบกับใช้พันธุ์มันสำปะหลังไม่เหมาะสมกับพื้นที่ หรือใช้พันธุ์ที่ไม่ได้รับการรับรองจากทางราชการ และใช้พันธุ์ตามเพื่อนบ้าน เช่น พันธุ์น้องแบม ที่ให้น้ำหนักดีแต่มีเชื้อแป้งต่ำ เพราะมีการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงของผู้จำหน่ายพันธุ์มันสำปะหลัง ทำให้เมื่อกระทบแล้ง มันสำปะหลังพันธุ์นี้จึงให้เชื้อแป้งลดต่ำลงมาก

สำหรับการเพาะปลูกในฤดูกาลใหม่ พบว่า มันสำปะหลังที่ปลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2558 ประสบภาวะภัยแล้ง ส่งผลให้พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังบางส่วนได้รับความเสียหาย เกษตรกรต้องปลูกซ่อมหรือบางรายต้องปลูกใหม่ ส่วนเกษตรกรที่เตรียมต้นพันธุ์เพื่อปลูกในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2559 บางพื้นที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ไม่สามารถปลูกมันสำปะหลังได้ จึงส่งผลให้พันธุ์มันสำปะหลังที่เตรียมไว้ตาย เกิดปัญหาขาดแคลนต้นพันธุ์

ด้านการตลาด พบว่า ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้ยังคงอ่อนตัวลง จากราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.09 บาท ในเดือนตุลาคม 2558 เหลือกิโลกรัมละ 1.87 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2559 เนื่องจากจีนชะลอการสั่งซื้อมันเส้น ประกอบกับเชื้อแป้งมันสำปะหลังต่ำ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด ปี 2558/59 เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาการปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยดให้แก่เกษตรกร และช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต โดยให้เกษตรกรกู้เงินจาก ธ.ก.ส. วงเงินกู้รายละไม่เกิน 230,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 7 ต่อปี ซึ่งรัฐชดเชยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ FDR+1 ต่อปี ระยะเวลา 24 เดือน เกษตรกรสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการกับ ธ.ก.ส. ใกล้บ้าน ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 30 กันยายน 2559

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา