ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันถึงความสำคัญของปัญหาการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม (environmental crimes) โดยรองประธานหน่วยงาน KPK ได้กล่าวถึงโครงการนำร่อง (pilot project) ในการจัดตั้งหน่วยงานต่อต้านการทุจริตประจำจังหวัดของอินโดนีเซีย โดยเน้นบริเวณ 8 จังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แก๊ส และน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง และด้วยข้อจำกัดขององค์กร ในโครงการนำร่องนี้ จึงมุ่งเน้นไปที่จังหวัดที่มีความเสี่ยงในการเกิดการทุจริตสูงก่อน ขณะที่ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ก็ได้กล่าวถึงนโยบายของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อม และคดีที่มีลักษณะเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ (Transnational crimes) เช่นกัน
นอกจากนี้ หน่วยงาน KPK ยังเสนอแนวทางความร่วมมือการพัฒนาบุคลากรร่วมกันว่า ปัจจุบัน หน่วยงาน KPK ได้จัดตั้ง Anti-Corruption Learning Center เพื่อเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรม และเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน KPK ซึ่งจะสามารถพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทยเข้าร่วมฝึกอบรมในอนาคต