โดยการมาเยือนของเชฟอัมเบอร์โต บอมบานา (Umberto Bombana) เชฟมิชลินสตาร์ 3 ดาว
จากห้องอาหาร 8½ Otto e Mezzo Bombana ประเทศฮ่องกง
ณ ห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี โรงแรม แมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ วันที่ 13-14 กรกฎาคม 2016
อีกครั้งที่ ซานเปลเลกรีโน ในฐานะผู้นำด้านไฟน์ไดน์นิ่งและไลฟ์สไตล์ในการกินอยู่แบบอิตาเลียน นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษให้กับคุณ โดยครั้งนี้พบกับเชฟอัมเบอร์โต บอมบานา (Umberto Bombana) จากห้องอาหาร 8½ Otto e Mezzo Bombana ห้องอาหารอิตาเลียนมิชลินสตาร์ระดับ 3 ดาว จากประเทศฮ่องกง และติดอันดับที่ 13 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2016 (Asia's50 Best Restaurants 2016) ณ ห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี โรงแรม แมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ วันที่ 13-14 กรกฎาคม 2016
เชฟอัมเบอร์โต บอมบานา ได้รับการยกย่องจากนักชิมระดับโลกว่า "เป็นราชาแห่งเห็ดทรัฟเฟิลขาว" เขาเกิดที่แบร์??กาโม เมืองในประเทศอิตาลีตอนเหนือ พรสวรรค์และทักษะของเขาทำให้เขาได้มีโอกาสเดินทางไปทั่วโลก ในปี1993 เขาเดินทางมายังฮ่องกง เพื่อเปิดห้องอาหาร Toscana ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดดเด่นที่สุดด้านไฟน์ไดน์นิ่งยาวนานถึง 15 ปี ในปี 2002 เชฟอัมเบอร์โต บอมบานา ประสบความสำเร็จและโด่งดังอย่างมาก เมื่อเขาได้รับรางวัลเชฟอาหารอิตาเลียนที่ดีที่สุด (The Best Italian Chef) ในภูมิภาคเอเชีย โดย The Italian Culinary Institute for Foreigners (ICIF) และในปี 2006 เขาได้รับเกียรติได้ทำหน้าที่เป็นทูตของ The White Traffle ของ Piedmontese Regional Enoteca Cavour ในอิตาลี
ในปี 2008 เชฟบอมบานาเริ่มทำโปรเจคส่วนตัวที่โดดเด่นที่สุด คือการก่อตั้งห้องอาหาร 8½ Otto e Mezzo Bombana เขาตั้งชื่อ 8½เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้กำกับคนโปรดชาวอิตาลี เฟเดรีโก เฟลลีนี โดยภาพยนตร์เรื่อง "8½" เป็นรื่องเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และอาร์ต ในเดือนธันวาคม 2010 หลังจากเปิดตัวได้เพียง 11 เดือน ห้องอาหาร 8½ Otto e Mezzo Bombana ก็ได้รับมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว และถัดมาในปี 2012 ก็คว้ามิชลินสตาร์ระดับ 3 ดาว จาก Michelin Guide Hong Kong & Macau มาครอง ถือว่าเป็นห้องอาหารอิตาเลียนในต่างประเทศที่แรกและที่เดียว ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และยังคงรักษามาตรฐานไว้อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาถึง 5 ปีแล้ว
ในการมากรุงเทพฯ ของเชฟบอมบานาครั้งนี้ คุณจะได้ลิ้มลองเมนอาหาร 8-คอร์ส ซึ่งรวมหลากหลายเมนูเด่นของเขา อาทิ Confit Abalone Carpaccio, semi–dried tomato and Oscietra caviar ซึ่งนำเข้าเป๋าฮื้อคุณภาพจากประเทศออสเตรเลีย, Blue Lobster with basil rattatuia and seafood emulsion ล็อบสเตอร์สีน้ำเงินนั้นนำเข้าจากแคว้นบริตตานีของประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นแหล่งส่งออกล็อบสเตอร์สีน้ำเงินที่ดีที่สุด, ของหวานแสนอร่อย Classic Warm Ricotta Tart with pistachio, candied orange and ricotta gelato วอร์ม ริคอตต้า ทาร์ตทำจากชีสริคอตต้าโฮมเมด ทำสดใหม่ และนำเข้านมและครีมจากเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี
อาหารแต่ละคอร์สเสิร์ฟพร้อมไวน์ชั้นดีคัดสรรจากหลายๆ ภาคพื้นของอิตาลี มาจับคู่ รวมถึง เพียมอนท์ (Piedmont) และทัสคานี (Tuscany) พร้อมเสิร์ฟน้ำแร่มีฟองซานเปลเลกรีโน และน้ำแร่อัคควา ปันนา จากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติในแคว้นทัสคานี ที่จะเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับต่อมรับรสของคุณได้อย่างนุ่มละมุน นักชิมไวน์และผู้ประกอบการภัตตาคารชั้นนำจึงให้ความไว้วางใจ และเห็นพ้องต้องกันว่าซานเปลเลกรีโน และอัคควา ปันนาเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการจับคู่กับอาหารและไวน์ชั้นเลิศ
เมนูอาหาร 8-คอร์ส ราคา 13,000++ บาทต่อท่าน รวมไวน์, น้ำแร่มีฟองซานเปลเลกรีโน และน้ำแร่อัคควา ปันนา
(ราคาไม่รวมภาษี และค่าบริการ)
สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร 02 659 9000 ต่อ 7390 หรือ อีเมล์: [email protected]
ซานเปลเลกรีโนจัดกิจกรรม 'ประสบการณ์ไฟน์ไดน์นิ่งกับการมาเยือนของเชฟระดับโลก' เพื่อนำเชฟระดับโลกจากภัตตาคารชั้นนำมาเปิดประสบการณ์ไฟน์ไดน์นิ่งชั้นยอดให้แก่นักชิมชาวไทย ซานเปลเลกรีโนมุ่งมั่นส่งเสริมวัฒนธรรมไฟน์ไดน์นิ่งผ่านกิจกรรมไฟน์ไดน์นิ่งในรูปแบบต่างๆ และนิตยสาร Finedininglovers.com แหล่งข้อมูลข่าวสารออนไลน์สนับสนุนโดย ซานเปลเลกรีโน และ อัคควา ปันนา เพื่อเข้าถึงชุมชนคนรักอาหารและผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมไฟน์ไดน์นิ่ง อันเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับแบรนด์โดยตรง
ผู้ที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ด้านอาหารและไวน์ เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการกินการดื่ม และวิดีโอต่างๆ จากทั่วโลกสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่ www.finedininglovers.com นิตยสารออนไลน์ที่สนับสนุนโดยซานเปลเลกรีโน และอัคควา ปันนา