ส่วนสาเหตุของการกระทำความผิดของตัวแทน/นายหน้าประกันภัยทั้ง 14 ราย เกิดขึ้นใน 5 ลักษณะ คือ 1.รับชำระเงินเบี้ยประกันภัยจากผู้ขอหรือผู้เอาประกันภัย แต่มิได้แจ้งขอเอาประกันภัยหรือนำส่งเงินเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัทประกันภัย 2.กระทำการทุจริตการสอบโดยสวมสิทธิ์เข้าสอบความรู้เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตแทนผู้สมัครสอบ 3.ปลอมลายมือชื่อในใบเปลี่ยนแปลงสัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย โดยขอเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระเบี้ยประกันภัยจากรายปีเป็นรายเดือน 4.ได้ยินยอมให้ผู้อื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิตเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตของบริษัท และ5.ไม่มีผู้แทนนิติบุคคลที่มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล หรือผู้มีอำนาจในการจัดการกิจการนายหน้าประกันวินาศภัยอย่างน้อยสองคนที่ผ่านการทดสอบความรู้ปฏิบัติงานตลอดเวลาที่ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งตัวแทน/นายหน้าประกันภัยทั้ง 14 ราย ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจะไม่สามารถกระทำการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยหรือขอรับใบอนุญาตใหม่ได้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคปภ. กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (1 มกราคม - 31 มีนาคม 2559) สำนักงาน คปภ. มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัยไปแล้ว จำนวน 13 ราย ดังนั้นรวม 2 ไตรมาสของปีนี้หรือครึ่งปีแรกของปี 2559 มีตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ถูกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจำนวน 27 ราย ในขณะที่ปัจจุบัน (30 มิถุนายน 2559) มีตัวแทนและนายหน้าประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตจำนวนทั้งสิ้น 507,952 ราย ซึ่งเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพดี จะมีเพียงบางส่วนที่มีการกระทำผิดกฎหมายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ดังนั้นสำนักงาน คปภ. จึงต้องควบคุมดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงานของตัวแทน/นายหน้าประกันภัย อย่างมีประสิทธิภาพเข้มงวดและจริงจัง เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น และมีทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ประชาชนสามารถตรวจสอบว่าผู้เสนอขายประกันภัยเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ จากเว็บไซต์สำนักงาน คปภ. www.oic.or.th หรือสอบถามได้ที่สายด่วนคปภ.1186