ก่ำกึ่งกันระหว่างผู้ที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ในกลุ่มนักรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ คือ ร้อยละ 51.4 เห็นด้วยต่อกระแสข่าวคนหนุน นายกรัฐมนตีตั้งพรรคการเมือง ในขณะที่ร้อยละ 48.6 ไม่เห็นด้วย เมื่อแยกออกเป็นกลุ่มนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และ นิติศาสตร์ พบว่า กลุ่มนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.7 เห็นด้วย แต่กลุ่มนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ยังคงก่ำกึ่งกันคือร้อยละ 51.6 และร้อยละ 51.2 ตามลำดับ หมายความว่า กลุ่มเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยมีพอๆ กันในกลุ่มนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในเรื่องนายกรัฐมนตรีตั้งพรรคการเมือง
เมื่อสอบถามถึงแนวคิด ตัดบทบาทของสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร ออก พบว่า กลุ่มนักรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 63.2 ระบุไม่เห็นด้วยต่อการตัดบทบาทของสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร ในขณะที่ร้อยละ 36.8 เห็นด้วย และเมื่อถามถึง ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในคดีจำนำข้าว พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.0 ระบุทั้งนักการเมืองและข้าราชการต้องรับผิดชอบ โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.7 เห็นด้วยกับ การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เพราะส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.9 ระบุถ้าหากเลือกตั้งวันนี้ บ้านเมืองจะขัดแย้ง วุ่นวาย ได้นักการเมืองเดิมๆ เข้า ในขณะที่ร้อยละ 28.1 ระบุบ้านเมืองจะเรียบร้อย ได้นักการเมืองชั้นดีเข้ามา
ที่น่าสนใจคือ กลุ่มนักรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ในรั้วมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 54.4 ระบุยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องปรับคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ร้อยละ 45.6 ระบุถึงเวลาแล้ว ตามลำดับ