ดร.ธีธัช กล่าวเพิ่มเติมว่า การต้อนรับคณะนักธุรกิจยางพาราจากอินเดีย เพื่อพบปะและเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการทั้งภาคเอกชน และสถาบันเกษตรกรของไทยในพื้นที่ภาคใต้ ที่ จ.สงขลา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกยางเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และมีศักยภาพในการรวบรวมผลผลิต การแปรรูปยางเพื่อส่งออก รวมถึงความได้เปรียบในระบบการคมนาคมขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ โดยได้รับการประสานงานเป็นอย่างดีจาก การยางแห่งประเทศไทย สมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย และสถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงนิวเดลี โดยผลการเจรจาในครั้งนี้ ประเทศไทยได้ทราบถึงปริมาณความต้องการยางพารา และความต้องการของบริษัทผู้ผลิตยางล้อ โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของวัตถุดิบ ปัญหาเรื่องกลิ่น ทั้งนี้ เตรียมมอบให้ กยท. เร่งให้ความรู้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบการทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาคุณภาพยางไทยทั้งระบบให้ได้มาตรฐานระดับสากล
"การมาเยือนของคณะนักธุรกิจอินเดียในครั้งนี้ มีผู้ซื้อยางหลายบริษัทที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ผ่านทางการยางแห่งประเทศไทย โดย กยท.จะเป็นผู้ประสานงานหาตัวอย่างผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง STR 20จากสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมด้านการแปรรูป ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานการรับรองกับผู้ซื้อ และส่งให้บริษัทในประเทศอินเดียพิจารณาก่อนซื้อขาย นอกจากนี้ ยังมีความต้องการยางไทยจากหลายบริษัทในประเทศจีนที่ติดต่อเข้ามา จึงได้มอบให้ กยท. พิจารณาการจะเข้าไปรับซื้อยางตลาดในประเทศ เพื่อให้ได้สินค้าตรงตามความต้องการของผู้ซื้อแต่ละรายต่อไป" ดร.ธีธัช กล่าวทิ้งท้าย