ดังนั้นตนจึงได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสำนักงาน คปภ.ภาค 8 ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกผู้ประสบภัยในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานด้านการประกันภัยและประสานไปยังบริษัทประกันภัยให้เร่งจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนและค่ารักษาพยาบาลให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยโดยเร็ว
นอกจากนี้ บมจ. ไทยพัฒนาประกันภัย ที่รับทำประกันภัยเรือโดยสารลำดังกล่าว แต่กรมธรรม์หมดอายุไปแล้ว ได้ประสานมายังสำนักงาน คปภ. แสดงความจำนงในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย โดยมอบเงินให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตรายละ 10,000 บาท อีกด้วย ซึ่งทางสำนักงาน คปภ. จะได้รีบประสานงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าผู้ประสบภัยที่มีการทำประกันชีวิตและการประกันภัยอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัย จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ความสำคัญในการทำประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงภัย เพราะหากเกิดความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ระบบประกันภัยจะช่วยเหลือบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ในส่วนของผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารหรือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณะจะต้องทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนดและหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ด้วยเพื่อต่ออายุกรมธรรม์ให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยตลอดเวลา หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th