นางกรรณิการ์ วงศ์ทองศิริ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า อพวช. มีภารกิจในการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ให้กับสังคม โดยให้บริการแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านพิพิธภัณฑ์ ในช่วงปิดเทอมนี้ อพวช. จัดกิจกรรมและนิทรรศการต้อนรับน้อง ๆ เยาวชน และผู้สนใจ ด้วยการนำเข้า 2 นิทรรศการจากทวีปอเมริกา ซึ่งเป็นนิทรรศการที่มีกระแสตอบรับที่ดีมากจากทั่วโลก ถือว่าเป็นความโชคดีของคนไทยที่ไม่ต้องเดินทางไปชมไกลถึงต่างประเทศ โดยนิทรรศการ "Strange Matter : วัสดุสุดประหลาด...วิทยาศาสตร์ยุคใหม่" จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ อพวช. คลองห้า ชั้น 1 บริเวณนิทรรศการชั่วคราว มีการนำไปจัดแสดงมาแล้วในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในประเทศต่าง ๆ มาแล้วทั่วโลกราว 50 พิพิธภัณฑ์ และนิทรรศการ "DaVinci The Exhibition : อัจฉริยะพลิกโลก" จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ อพวช. คลองห้า เป็นนิทรรศการยอดนิยมจนต้องมีการทำขึ้นถึง 2 ชุด เพื่อจัดแสดงตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
นิทรรศการ "Strange Matter : วัสดุสุดประหลาด...วิทยาศาสตร์ยุคใหม่" ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้เรื่องวัสดุศาสตร์ยุคน้ำแข็งของมนุษย์ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 5,300 ปี จนถึงปัจจุบันกับการพัฒนาค้นคว้าด้านคุณสมบัติของวัสดุในระดับโมเลกุลและอะตอม ด้วยการจัดเรียงในส่วนที่เล็กที่สุดเพื่อให้เกิดคุณสมบัติใหม่ ๆ ของวัสดุต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา อีกทั้งยังสามารถไขความลับเรื่องวัสดุดั้งเดิมที่ไม่เคยล่วงรู้มาก่อน โดยการศึกษาวิจัยจนถึงขั้นอะตอม เช่น มหัศจรรย์แม่เหล็กเหลว สสารที่สามารถเคลื่อนไหวไปตามขั้วแม่เหล็กโลก โลหะอะมอร์ฟัส ทดสอบความแข็งแกร่งและความพิเศษของโลหะอะมอร์ฟัส อัลลอยชนิดพิเศษที่มีโครงสร้างการจัดเรียงโมเลกุลที่ไม่เป็นระเบียบ แต่ทำให้เกิดความแข็งแรงที่แปลกประหลาด สวนผลึก ร่วมพิสูจน์โครงสร้างผลึกอย่างใกล้ชิดกับรูปแบบผลึกชนิดต่าง ๆ บนโลก พร้อมกับเห็นกระบวนการการผลิตผลึกสุดอัศจรรย์ โฟม นักวิทยาศาสตร์พัฒนาโฟมในระดับโมเลกุลและอะตอม เช่น แอโรเจล วัสดุแนวใหม่ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายในครัวเรือน อีกทั้งยังใช้เป็นฉนวนกันความร้อนได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริมศึกษาให้ผู้เข้าชมได้มาทดลองผสม และแยกส่วนประกอบ จำลองเป็นนักวัสดุศาสตร์ อีกด้วย
ส่วน นิทรรศการ "DaVinci The Exhibition : อัจฉริยะผู้พลิกโลก" นิทรรศการชุดนี้ จะนำผู้ชมย้อนเวลาไปกว่า 500 ปี ช่วงยุคเรเนซองส์ ซึ่งเป็นยุคแห่งการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการในยุโรป เพื่อเรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาที่น่าทึ่งของ ดา วินชี ผู้สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานที่ได้รับการยอมรับระดับโลก โดยที่ไม่เคยได้รับการศึกษาในโรงเรียนเลย ทุกจินตนาการและการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเขาเกิดจากการเฝ้าสังเกตศึกษา ทดลองด้วยตนเอง และนำองค์ความรู้จากหลากหลายแขนงประกอบกันขึ้นมา ดังนั้น ผลงานของ ดา วินชี จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของคำว่า "สหวิทยาการ" ภายในนิทรรศการผู้ชมจะได้ประจักษ์ถึงอัจฉริยภาพของเขา โดยแบ่งการนำเสนอ ออกเป็น 6 หมวด ได้แก่ การบิน วิศวกรรมทางน้ำ การทหาร ดนตรีและการแสดง ฟิสิกส์ การก่อสร้างและขนส่ง ผ่านผลงานกว่าหกสิบชิ้นที่จำลองจากแบบร่างของ ดา วินชี โดยการถอดรหัสที่เขาได้ซ่อนไว้อย่างแนบเนียนในบันทึกแต่ละชิ้น ซึ่งแบบร่างบางชิ้น ไม่เคยนำมาผลิตเป็นชิ้นงานจริงมาก่อน
นางกรรณิการ์ฯ กล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่า อพวช. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองนิทรรศการนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนไทยมากขึ้น สำหรับผู้สนใจชมนิทรรศการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2577 9999 ต่อ 2122, 2123 หรือ www.nsm.or.th หรือwww.facebook.com/NSMthailand