มร.เดวิด โครูนิช ประธานกรรมการบริหาร บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต กล่าวถึงนโยบายนี้ว่า "นโยบายดังกล่าว เป็นสิทธิที่เท่าเทียมกันของพนักงาน กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ทุกคน ทุกระดับ ในการให้เวลากับครอบครัว ผมมั่นใจว่าการสร้างความสุข และความสมดุลทั้งในชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเติมเต็มชีวิตของพนักงาน การได้เป็นพ่อ-แม่ นับเป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่ของชีวิตมนุษย์ เราต้องการสนับสนุนให้พนักงานได้สัมผัสประสบการณ์นี้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัฒนธรรม และค่านิยมของคนไทยที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว เสมือนเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต ทำให้เราเห็นความสำคัญ และมั่นใจที่จะประกาศนำนโยบายนี้มาใช้ และยกระดับให้แบรนด์ของกรุงไทย-แอกซ่า เทียบเท่าระดับสากล"
เพื่อเป็นการสนับสนุนให้พนักงานได้สิทธิประโยชน์จากสวัสดิการพนักงานนี้อย่างเต็มที่ บริษัทฯ ได้รับรองสถานภาพการทำงาน และการรับเงินเดือนเต็มจำนวน ตลอดระยะเวลาการลา และสวัสดิการนี้ยังครอบคลุมครอบครัวทุกรูปแบบ ทั้งผู้ที่มีบุตรเอง หรืออุปการะเด็กอายุไม่เกิน 2 ขวบ ครอบครัวคู่รักต่างเพศ หรือเพศเดียวกัน หรือเลี้ยงบุตรเพียงลำพัง ก่อนหน้านี้ กรุงไทย-แอกซ่า ได้เคยให้สิทธิการลาผ่าตัดแปลงเพศสำหรับพนักงานเพศที่สาม และสามารถแต่งกายได้ตามต้องการ และขยายสวัสดิการสุขภาพแก่คู่รักของพนักงานเพศที่สาม ให้เท่าเทียมกับพนักงานทั่วไปอีกด้วย ถือเป็นบทพิสูจน์ว่า กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ให้ความสำคัญกับพนักงาน เพราะเชื่อมั่นว่าบุคลากรเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ตามแนวคิดของบริษัท "บุคลากรคุณภาพ สร้างองค์กรที่ยิ่งใหญ่"