ในส่วนของแนวทางการติดตามทรัพย์สินคืน กรณีนางจุฑามาศ ศิริวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติ วันนี้ คณะกรรมการประสานและเร่งรัดการดำเนินคดีทุจริตระหว่างประเทศ ได้สรุปแนวทางการดำเนินการติดตามทรัพย์สินคืน โดยเห็นควรให้มีการดำเนินการริบทรัพย์ควบคู่กันทั้งในทางอาญา ตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางและทั้งทางแพ่งตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลคดีร่ำรวยผิดปกติ ซึ่ง ป.ป.ช. จะได้มีการทำงานร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อส่งคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการอายัดและริบทรัพย์ของนางจุฑามาศและบุตรสาวที่ซุกซ่อนอยู่ในต่างประเทศไปยังประเทศต่างๆ ที่ทรัพย์ตั้งอยู่เพื่อติดตามเอาทรัพย์กลับคืนสู่ประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวเป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. ๒๐๐๓ ซึ่งส่งเสริมให้รัฐภาคีให้ความร่วมมือกันในการริบทรัพย์สินและส่งคืนให้กับประเทศผู้เสียหายที่แท้จริง ซึ่งกรณีนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างที่ทำให้สังคมทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเห็นว่าประเทศไทยเอาจริงเอาจังกับการขจัดปัญหาการทุจริต และผู้กระทำความผิดไม่สามารถหนีรอดจากการลงโทษไปพร้อมกับทรัพย์สกปรกได้แม้จะมีการเอาทรัพย์ไปซุกซ่อน ในต่างประเทศ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้ศูนย์ประสานงานคดีระหว่างประเทศ สำนักการต่างประเทศ สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภายในประเทศและหน่วยงานในต่างประเทศเพื่อดำเนินการ โดยเร็วที่สุดต่อไป
ในส่วนของคดีโรลส์-รอยซ์ ที่เกี่ยวข้องกับการบินไทยนั้นก็มีความคืบหน้าในการรวบรวมพยานหลักฐานในการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยมีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งชุดเป็นองค์คณะในการไต่สวน แต่ยังคงขาดเอกสารบางส่วนจากการบินไทย รวมถึงปตท. และปตท.สผ. ที่ทาง ป.ป.ช. ต้องติดตามเร่งรัดให้ส่งให้โดยเร็ว
นอกจากนี้ ในส่วนของคดีที่เกี่ยวข้องกับปตท. และปตท. สผ. คณะกรรมการ ป.ป.ช. คาดว่าจะตั้ง ไต่สวนข้อเท็จจริงได้ภายในเดือนเมษายนนี้